กรุงเทพฯ 25 ต.ค. – นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง เตรียมนำคณะผู้แทนการค้าข้าวฮ่องกงรายสำคัญเยือนไทยวันที่ 13 – 16 พฤศจิกายน 2559 จำนวน 37 ราย เพื่อสั่งซื้อข้าวต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่จะถึงนี้ โดยผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญที่เดินทางมาครั้งนี้มีสัดส่วนการนำเข้ารวมกันมากกว่าร้อยละ 80 อาทิ บริษัท โกลเด้น รีซอร์ซ ดีเวลอปเม้นท์ บริษัท ดา ชอง ฮอง โฮลดิ้ง และบริษัท กุย ฟัท หยุน
นางมาลี กล่าวว่า ฮ่องกงนอกจากนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยและข้าวเหนียวเป็นหลักแล้ว ปัจจุบันยังให้ความสนใจนำเข้าข้าวไทยชนิดอื่นเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวสุขภาพ และข้าวออร์แกนิก เพื่อรองรับแนวโน้มการบริโภคข้าวของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ดังนั้น คณะผู้แทนการค้าข้าวจากฮ่องกงเดินทางมาครั้งนี้ นอกจากเพื่อจับคู่ธุรกิจการค้าและเยี่ยมชมศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวหอมมะลิแล้ว จะมีการลงนามความตกลง MOU กับคู่ค้ารายใหม่ และ MOU สำหรับการซื้อขายสินค้ารายการใหม่ รวม 4 ฉบับ อาทิ การลงนามความตกลงสั่งซื้อข้าวกาบา และข้าวไรซ์เบอรี่ เป็นต้น ซึ่งการจับคู่ทางธุรกิจเหล่านี้เป็นผลจากการดำเนินการตามนโยบายเชิงรุกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในการขยายตลาดสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมส่งเสริมการค้าต่าง ๆ รวมทั้งงานแสดงสินค้าอาหาร (THAIFEX – World of food ASIA) ครั้งที่ผ่านมาด้วย
สำหรับช่วง 8 เดือนแรกปี 2559 (ม.ค.– ส.ค.) ไทยยังเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ไปยังฮ่องกง ด้วยสัดส่วนเชิงปริมาณของข้าวไทยในตลาดฮ่องกงที่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 59.7 หรือ 132,000 ตัน คาดว่าปี 2559 ไทยจะสามารถขยายตลาดข้าวส่งออกมายังฮ่องกงได้ 195,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 8 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งแสดงว่าข้าวจากไทยจะครองส่วนแบ่งตลาดนำเข้าข้าวของฮ่องกงเชิงปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 60 และ 65 ตามลำดับ
ส่วนการเจรจาการค้าระหว่างผู้ซื้อผู้นำเข้ากับผู้ประกอบการไทยครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 16 พฤศจิกายน 2559 ณ โรงแรมเซ็นทารา ลาดพร้าว โดยมีสินค้าเป้าหมาย 2 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย ข้าวและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง และมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง ส่วนผู้นำเข้าข้าวจากประเทศอื่น ๆ ที่ตอบรับเดินทางมาร่วมกิจกรรม ได้แก่ จีน อิหร่าน อินเดีย สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และผู้นำเข้ามันสำปะหลังที่ตอบรับ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย บังกลาเทศ และมาเลเซีย เป็นต้น รวมแล้วกว่า 200 ราย จาก 20 ประเทศทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย