กทม.24 ส.ค.- ผู้การ 191 ตามความคืบหน้าเต็นท์รถยนต์ย่านบางแค ฉ้อโกงประชาชน หลังจับผู้ต้องหาได้อีก 2 คน ขณะที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 17 ราย
พลตำรวจตรีสรุเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษหรือ 191 ไป สน.หลักสอง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงประชาชน ของเต็นท์รถแห่งหนึ่งย่านศูนย์รวมรถยนต์ ถนน กาญจนาภิเษก แขวงและเขต บางแค หลังจับกุมนางสาวทัศนีย์ เช้าเจริญประกิจ เจ้าของเต็นท์ไปแล้วก่อนหน้านี้ จากการขยายผลพบมีผู้เกี่ยวข้องอีก พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง จึงขอศาลอาญาธนบุรี อนุมัติหมายจับและจับกุมอีก 2 คน คือนายพาทิศ ฮะก็มี และนายปาณเดชา รชตะวาริกุล ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ
พลตำรวจตรีสรุเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 17 ราย คาดมีผู้เสียหายทั่วประเทศที่ถูกเต็นท์รถแห่งนี้หลอกลวง เข้าแจ้งความอีกไม่ต่ำกว่า 50 ราย ที่ผ่านมาผู้เสียหายมักพบอุปสรรค เนื่องจากพฤติการณ์ผู้ต้องหาเป็นลักษณะการกระทำผิดสัญญาทางแพ่ง จึงไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้ กระทั่งมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหามีเจตนาฉ้อโกง คดีนี้มีหลายคนที่ได้รับความเสียหาย จึงต้องดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ ทั้งการฉ้อโกงหลอกลวง การประกอบกิจการขายรถมือสองโดยไม่ได้รับอนุญาต ค้าของเก่า โดยให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจรถทุกคันในเต็นท์ว่ามีการดัดแปลงเลขตัวถัง หรือเล่มทะเบียนหรือไม่ เบื้องต้นพบรถยนต์บางคันใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม ก็จะดำเนินคดีฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม
ผู้เสียหายชายรายหนึ่งระบุว่า ตกลงซื้อรถยนต์ไว้ เมื่อทำสัญญาจ่ายค่ามัดจำเพื่อดำเนินการกับไฟแนนซ์ พอไฟแนนซ์ผ่านกลับได้รถยนต์อีกคัน รวมถึงต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มทั้งต่อภาษีอากร ค่าประกัน โดยไม่มีการตกลงไว้ตั้งแต่แรก และรถยนต์ที่ได้รับก็มีสภาพไม่สมบูรณ์
ส่วนผู้เสียหายหญิง สนใจซื้อรถยนต์ในรุ่น ราคาที่ตัวเองกำหนดตามที่มีการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ของเต็นท์ไว้ เมื่อจ่ายค่ามัดจำเรียบร้อย กลับนำรถยนต์ที่มีมูลค่าเกินกว่าที่เลือกไว้มานำเสนอเพื่อจัดไฟแนนซ์ และเมื่อได้รถกลับมีค่างวดผ่อนชำระค่าประกันรถยนต์เพิ่มมาด้วยไม่มีการตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก ทำให้เกิดความเสียหาย.-สำนักข่าวไทย