ประชุมขับเคลื่อนอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนา

ปิ่นเกล้า 24 ส.ค.-กรมการศาสนา เปิดเวทีประชุมขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆในไทย ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. 49/2559 แก้ปัญหาบิดเบือนหลักธรรมคำสอน


นายมานัส ธารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.)เป็นประธานการประชุมติดตามผลการขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ผู้แทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนองค์การศาสนา 5 ศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู ซิกซ์ และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาเข้าร่วม 250 คน


อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า สืบเนื่องจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 49/2559 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2559 เรื่อง มาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อหามาตรการในการแก้ปัญหาความบิดเบือนหลักธรรมคำสอนและสร้างความสมานฉันท์ในหมู่ศาสนิกชน โดย ครม. มีมติเห็นชอบแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560  โดยสาระสำคัญของแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนา ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา 2. ส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแผ่หลักธรรมที่ถูกต้อง 3. อุปถัมภ์ศาสนา 4.คุ้มครองป้องกันการบ่อนทำลายศาสนา 5. การสร้างความเข้าใจอันดีและความร่วมมือระหว่างศาสนา และ 6.การสร้างการรับรู้และความเข้าใจในกิจการศาสนา


โดยการประชุมครั้งนี้ติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว จึงได้จัดประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และรับทราบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและองค์การศาสนาต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงและขยายผล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เชิญประธานองค์กรศาสนาต่างๆในส่วนภูมิภาคและระดับจังหวัดเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในแผนยุทธศาสตร์ โดยเป็นการทำงานตามกรอบเวลาที่ต้องรายงานความคืบหน้าไปยังนายกรัฐมนตรีทุก 3 เดือน 

ส่วนการแก้ปัญหาทางด้านศาสนา เบื้องต้นได้แบ่งหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ คือศาสนาพุทธ จะเป็นการดูแลโดยคณะสงฆ์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่วนศาสนาอื่นจะเป็นสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแต่ละแห่ง 

ด้านนายเกรียงศักดิ์ บุญประสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองศาสนูปถัมภ์ กล่าวบนเวที ว่า หน้าที่การดูแลคุ้มครองศาสนาเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 31 บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการนับถือศาสนาและย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติหรือประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาของตนแต่ต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ไม่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของรัฐ และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน ยอมรับว่าปัจจุบันสังคมไทยเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมเต็มขั้น อุปสรรคสำคัญในการแก้ปัญหาทางด้านศาสนาคือสร้างความเข้าใจถึงหลักธรรมคำสอนของแต่ละศาสนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ยอมรับในความแตกต่างกัน ซึ่งขณะนี้กรมการศาสนาดำเนินกิจกรรม อาทิ ศาสนิกสัมพันธ์ ให้เยาวชนจาก 5 ศาสนามาเข้าค่ายเรียนรู้หลักธรรมของแต่ละศาสนา ทั้งนี้ คนไทยนับว่าโชคดีที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นองค์ศาสนูปถัมภกศาสนาทุกศาสนาอย่างเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยอยู่ร่มเย็นเป็นสุขมายาวนาน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น