อุดรธานี 22 ส.ค.- ผู้การอุดรธานีเผยไม่พบการเดินทางผิดปกติเข้า กทม. หลังมีข่าวกลุ่มมวลชนจะมาให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์” ที่ศาลอาญาฯ ขณะที่ 3 อดีตแกนนำ นปช.ย้ำชัดไม่มีนัดแนะใคร บางคนไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองนานแล้ว หันมาทำอาชีพเกษตร ส่วนตำรวจลำปางเฝ้าระวังเช่นกัน
พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยถึงกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่จะเดินทางเข้าไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลอาญาแผนกคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ที่จะมีการพิพากษาในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีหนังสือแจ้งตำรวจในสังกัดทุกพื้นที่ให้ตรวจสอบและเฝ้าระวังเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อความสงบเรียบร้อยและป้องปรามมือที่สามฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย ล่าสุดไม่พบว่ามีการเกณฑ์คนเดินทางเข้า กทม.
ขณะที่นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวว่า วันพรุ่งนี้จะเดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่กรุงเทพฯ พอดี และคงไปร่วมให้กำลังใจกับอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ขอยืนยันว่าชมรมคนรักอุดรไม่มีการนัดแนะหรือแจ้งมวลชนให้มารวมกลุ่มกันอย่างแน่นอน หากใครจะเดินทางไปก็เป็นสิทธิของบุคคลที่เดินทางกันเอง ก่อนหน้านี้มีทหารมาสอบถามเรื่องนี้และได้ชี้แจงไปแล้ว
นางรัตนาวรรณ สุขศาลา อดีตแกนนำ นปช.อุดรธานี กล่าวว่า จะเดินทางไปให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรี กับหลาน 2 คน และไม่ทราบว่า นปช.ที่อุดรธานี จะเดินทางไปหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่อกันมานาน และได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ทหารที่โทรศัพท์มาสอบถามแล้วว่าไม่มีการรวมกลุ่มมวลชนเดินทางเข้า กทม.อย่างแน่นอน
ด้านนายอานนท์ แสนน่าน อดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง ระบุเช่นกัน ทหารมาพบเมื่อวันศุกร์ที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้รับปากว่าจะไม่เดินทางไป กทม. รวมทั้งไม่สนับสนุนให้คนหมู่บ้านเสื้อแดงเดินทางด้วยเช่นกัน เพราะยอมรับในกฎกติกาที่ทหารกำหนด ตั้งแต่ยุติสถานีวิทยุหรือความเคลื่อนไหวทางการเมือง ปัจจุบันหันมาทำฟาร์มหมู่บ้านเห็ด ให้คำแนะนำสร้างรายได้แก่ชาวบ้านเพาะปลูกเห็ด จึงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมือง
ส่วน จ.ลำปาง พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ.เมือง นำชุดเจ้าหน้าที่ตรวจตราความเรียบร้อยของการเดินทาง โดยตรวจสอบขบวนรถไฟฟรีที่ 102 ต้นทางจาก จ.เชียงใหม่ เข้าลานชลาที่สถานีรถไฟนครลำปางช่วงเช้า พบว่าผู้โดยสารในขบวนมีทั้งหมด 171 คน ขึ้นมาจาก จ.เชียงใหม่ และลำพูน 124 คน และขึ้นที่ลำปาง 47 คน ส่วนใหญ่ระบุว่าไปทำธุระที่กรุงเทพฯ รวมทั้งเยี่ยมญาติ และซื้อสินค้ากลับมาขาย.-สำนักข่าวไทย