กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ ห่วง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ กระทบคนไข้

สำนักข่าวไทย 22 ส.ค. – เครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet)  19 แห่ง ออกแถลงการณ์  ห่วง  พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560    ที่บังคับใช้พรุ่งนี้ 23 ส.ค. 2560  ทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบ จากการจัดซื้อยา และอวัยวะเทียมในแต่ละโรงพยาบาลที่มีคุณภาพไม่เท่ากัน  โดยเฉพาะปัญหาในการส่งต่อผู้ป่วยข้ามรพ. วอนกรมบัญชีกลาง ออกแนวทางกลางจัดซื้อ  


หลังจากก่อนหน้านั้น  เครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet)  19 แห่ง  ได้ ทำหนังสือถึง รมว.คลัง และอธิบดีกรมบัญชีกลาง   กรณีเรื่องการจัดซื้อยา อวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค และเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา  โดยย้ำว่า ทางเครือข่าย ฯเห็นด้วยกับการหลักการและเจตนารมย์ของพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความคุ้มค่าของสินค้า บริการ และงานก่อสร้าง  และต้องมีคุณภาพดีตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ไม่ใช่ราคาต่ำสุดเสมอไป 


 

แต่จากการร่วมกันศึกษาและพิจารณา พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฉบับนี้แล้ว มีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก สินค้าทางการแพทย์เหล่านี้ มีความซับซ้อนหรือมีความจำเพาะสูงต่างจากสินค้าทั่วๆไปอย่างสิ้นเชิง  ถึงแม้ว่า โรคส่วนใหญ่สามารถรักษาด้วยยาสามัญที่มีคุณภาพแทนการใช้ยาต้นแบบที่มีชื่อสามัญเดียวกันได้อย่างได้ผลดี   แต่ในบางกรณี ยังมีความจำเป็นต้นใช้ยาต้นแบบ แทนการใช้ยาสามัญที่มีชื่อเดียว  โดยพ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่ได้มีการเปิดช่องให้สถานพยาบาลดำเนินการจัดหายาทำเป็นเหล่านี้กับผู้ป่วย  ซึ่งอาจส่งผลเสียที่ร้ายแรงกับผู้ป่วย ซึ่งอาจกลายเป็นการซ้ำเติมความเจ็บป่วยของผู้ป่วยให้ทวีความรุนแรงขึ้นได้ และหากสถานบาลฝืนดำเนินการจัดหาเพื่อให้มียาแก่ป่วย ก็จะเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่มีกฎหมายลูกที่จะเป็นแนวทางชัดเจน ในการจัดหายาและอวัยวะเทียม แก่ผู้ป่วย 


อย่างไรก็ตาม   แนวทางที่เครือข่ายฯ นำเสนอนั้น ได้ยึดมั่นในประโยชน์ที่จะมีต่อผู้ป่วยและประเทศชาติ เป็นพื้นฐานสำคัญ เพื่อเป็นทางออกที่จะช่วยให้สถานพยาบาลอื่นทั่วประเทศไม่เฉพาะสถานพยาบาลในเครือข่าย สามารถดำเนินการจัดหายา และอวัยวะเทียม ก่อนที่จะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยเนื่องจากยาเป็นสินค้า ทางการแพทย์ที่ไม่ใช่เรื่องของแต่ละสถานพยาบาล ผู้ป่วยในระบบสุขภาพต้องมีการส่งต่อระหว่างสถานพยาบาลต้นทางและปลายทาง หากปล่อนให้แต่ละสถานพยาบาลต่างคนต่างทำ โดยไม่มีแนวทางกลางของประเทศ ในการจัดหายาที่ใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยเหล่านี้  อาจจะมีผลต่อระบบการส่งต่อผู้ป่วยของประเทศ และการเข้าถึงยาจำเป็นของผู้ป่วย อาจยิ่งสร้างความสิ้นเปลืองของประเทศชาติ อันเนื่องมาจากแต่ละสถานพยาบาลมียาที่มีคุณภาพไม่เท่ากัน   จึงขอเสนอผู้เกี่ยวข้องช่วยเร่งแก้ไขเป็นการด่วย ก่อนที่จะส่งผลเสียหายไปยังผู้ป่วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่