อบอุ่น ครม.สัญจรโคราช นายกรัฐมนตรีเว้าอีสานช่วยกันพัฒนาชาติ

นครราชสีมา 21 ส.ค.- ชาวโคราชต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรีอย่างอบอุ่น เผยดีใจได้กลับบ้านเกิด พร้อมพูดอีสานขอช่วยกันพัฒนาประเทศ ส่วน 3 โครงการใหญ่เห็นชอบหลักการทั้งเรื่องยกระดับรางรถไฟทางคู่-สร้างปอดแห่งใหม่-ผันน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลงลำตะคอง 


พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมาตรวจราชการและพบปะกับผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนกว่า 1,000 คน ช่วงสายวันนี้ (21 ส.ค.) ที่อาคารอเนกประสงค์ สวนสาธารณะหัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีนายวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 19 จังหวัดภาคอีสานให้การต้อนรับ ก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.)  ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรานารี จ.นครราชสีมา


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังชมวิดีทัศน์การนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล รวมถึงศักยภาพ ปัญหาและข้อเรียกร้องของชาวนครราชสีมาที่ต้องการให้แก้ไขว่า การเดินทางมาที่ จ.นครราชสีมาครั้งนี้ก็เหมือนกลับมาบ้าน เพราะตนเป็นชาวโคราชเป็นลูกอีสานได้มาสักการะท้าวสุรนารี และยังได้เหรียญที่ระลึกย่าโมด้วย สำหรับการพัฒนาประเทศนั้นต้องทำทุกระดับ ตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับบนเพื่อให้สอบคล้องและสอดรับกัน วันนี้มีโจทย์ที่ต้องร่วมกันแก้ คือ การสร้างรายได้ทำอย่างไรให้หลุดพ้นจากประเทศกำลังพัฒนา รายได้ปานกลางไปสู่ประเทศพัฒนา

“ผมเกิดในค่ายทหาร ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แม่เป็นคนชัยภูมิ  คนเราต้องไม่ลืมบ้านเกิดตัวเอง และผมก็ไม่เคยลืมเช่นกัน”


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า โครงการที่ชาวนครราชสีมาเสนอขอมานั้น ทั้งเรื่องการยกระดับรถไฟทางคู่ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา รัฐบาลรับทราบและจะปรับแก้ให้ส่วนจะได้มากน้อยเพียงใดนั้นกระทรวงคมนาคมกำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ ก็ต้องคำนึกถึงงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่วนโคราชผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้น เป็นโครงการใหญ่เม็ดเงินลงทุนค่อนข้างสูง ถึง 4,000 กว่าล้าน แต่เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้งให้กับเขื่อนลำตะคอง ทางรัฐบาลพร้อมสนับสนุนและบรรจุไว้ในแผนดำเนินงานแล้ว รวมถึงโครงการก่อสร้างปอดแห่งใหม่ของเมืองโคราชบริเวณบึงหัวทะเล กว่า 90 ล้านบาทนั้นไม่น่าจะมีปัญหา 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีพูดเรื่องนี้แล้ว ประชาชนที่มารับฟังพากันปรบมือด้วยความยินดี และก่อนจะลงจากเวทีนายกรัฐมนตรี ยังพูดทิ้งทายเป็นภาษาอีสานว่า  “ผมสนับสนุนการเลือกตั้ง แต่ที่ผ่านมาได้คนไม่ดีมาตลอด เพราะคนดีไม่ได้ไปเลือก ส่วนจะเลือกใครก็ไปเรื่องของประชาชน ขออย่าเลือกคนผิดอีก ทุกอย่างเป็นเรื่องชะตากรรมของบ้านเมือง และส่วนตัวก็ต้องรับชะตากรรมอยู่แล้ว ในเมื่อได้เข้ามาอยู่ตรงนี้แล้ว แต่ความหมายของการเลือกตั้ง คือจะต้องได้รัฐบาลที่มี ธรรมาภิบาล ขณะเดียวกัน ขอประชาชนอย่าไปหลงเชื่อคนที่บอกว่าจะให้สิ่งของให้เงินทองพอเลือกเข้ามาก็เป็นแบบเดิม”

“วันนี้ดีใจ ความจริงอยากพูดให้มากกว่านี้แต่เนื่องจากมีภารกิจมากจึงต้องหยุดไว้เท่านี้ก่อน ซึ่งเฉพาะเอกสารที่ทีมงานร่างมาให้พูดก็ 50 กว่าหน้า ตนเองร่างอีก70 หน้ารวมเป็น 100 กว่าหน้า  ก็ไมได้พูดหมด แต่ทั้งหมดนี่คืออนาคตประเทศไทย  อนาคตอีสาน และอนาคตโคราชอยู่ในนี้หมด  ใช่บ่   คิดถึงกันบ้างเด้อ  ก็เป็นไปตามที่ตนพูดไว้ เพราะทหารพูดอะไรโกหกไม่ได้ รวมถึงคำมั่นสัญญาที่ต้องทำ ไหนบอกว่าขอเวลาอีกไม่นานแต่จนถึงวันนี้ 3 ปีแล้วยังไม่ไปซักที จะไปก็ไปตามขั้นตอน ไปได้ก็ไป อย่าไล่ผมแล้วกัน  ถ้าไล่ก็จะไม่ไป  ขอบคุณทุกคน”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ได้ร่วมกันมอบเอกสารที่ดินทำกินตามโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อนเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ระดับจังหวัด ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ รวมทั้งจะไปพบประชาชนในพื้นที่ อ.ประทาย และ อ.โนนแดง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม