นครสวรรค์ 18 ส.ค.- หน.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดรุดตรวจบึงพบจระเข้โผล่เป็นสัญญาณดีทางระบบนิเวศน์ธรรมชาติ หลังสูญหายไปนาน 40 ปี ย้ำชุมชนช่วยกันอนุรักษ์ ห้ามล่าเด็ดขาด
นายจิระเดช บุญมาก เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยกรณีได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบจระเข้ในบึงบอระเพ็ดว่า จึงได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและพบจระเข้ประมาณ 3 ตัว มีขนาดทั้งเล็กและขนาดกลาง คาดว่าเป็นจระเข้ที่ถูกนำมาปล่อยไว้นานและมีการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การพบจระเข้ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดี แสดงว่าความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศน์กลับคืนมา และเท่าที่สอบถามชาวบ้านในชุมชนบริเวณดังกล่าวระบุว่าที่ผ่านมาพบจระเข้บ่อยประมาณ 21 ตัว จึงได้ศึกษาข้อมูลของประชากรจระเข้ในบึงบอระเพ็ดพบว่าเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา เคยมีจระเข้อาศัยอยู่นับพันตัวและต่อมาสูญหายไปไม่พบอีกเลยจากปัญหาการไล่ล่าของมนุษย์ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือชาวบ้านหากพบจระเข้ในบึงบอระเพ็ดห้ามล่าเด็ดขาด เพราะการล่าจระเข้มีความผิดทางกฎหมาย
สำหรับบึงบอระเพ็ดเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นตามธรรมชาติขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 132,737 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ของจังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง พื้นที่บางส่วนประมาณ 66,250 ไร่ ได้ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2518 ในอดีตบึงบอระเพ็ดได้ชื่อว่าเป็น “ทะเลเหนือ” หรือ “จอมบึง” เพราะมีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำอยู่มากมาย รู้จักกันมานานว่าเป็นแหล่งน้ำที่มีจระเข้ชุกชุม.-สำนักข่าวไทย
