ทีโออาร์ประมูลเล็งปรับสูตรก๊าซอ่าวไทยไม่อิงน้ำมันเตา

กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – เปิดร่างทีโออาร์ประมูลแหล่ง “เอราวัณ -บงกช” ให้เสนอปริมาณผลิตให้ต่อเนื่องและราคาไม่สูงไปกว่าเดิมมากนัก โดยอาจปรับสูตรจากอิงราคาน้ำมันเตาเป็นราคานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) หรือราคาน้ำมันดิบ ด้านเชฟรอนเตรียมพร้อมประมูล



นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์การประกาศประมูลแหล่งปิโตรเลียมรายภาค โดยในอ่าวไทยใช้ระบบแบ่งปันผลผลิตหรือพีเอสซี ดังนั้น กรมฯจะเร่งเสนอร่างประมูลแข่งขัน (ทีโออาร์) แหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุปี 2565-2566 คือ แหล่งเอราวัณและบงกชต่อคณะกรรมการปิโตรเลียม และคาดว่าเมื่อได้รับการอนุมัติจากกระทรวงพลังงานก็คงจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เดือนกันยายนนี้และเปิดให้เอกชนเสนอแข่งขันได้ปลายเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ขณะที่การประมูลแหล่งอื่น ๆ ก็คงจะเปิดให้ยื่นแข่งขันได้ภายใน 3 เดือนถัดจากการพิจารณา 2 แหล่งนี้เสร็จสิ้น


ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์พีเอสซีจะกำหนดคำนวณจากรายได้ที่พบปิโตรเลียม แบ่งเป็นค่าภาคหลวงร้อยละ 10 กำหนดการหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 50 เหลืออีกร้อยละ 40 จะเป็นการแบ่งครึ่ง หรือร้อยละ 50 ทั้งรายได้และการลงทุนของภาครัฐและเอกชน หรือที่เรียกว่า PROFIT SHARING  โดยส่วนนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ภาคเอกชนสามารถเสนอตัวเลขเพื่อแข่งขันได้ ขณะเดียวกันทีโออาร์ จะกำหนดให้เอกชนเสนอเรื่องการวางแผนผลิตให้ต่อเนื่องในอัตราที่เหมาะสมและราคาก๊าซฯ ที่จำหน่ายจะต้องไม่สูงกว่าเดิมมากนัก โดยขณะนี้กรมฯ กำลังติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซฯ ทั่วโลกอย่างใกล้ชิด รวมทั้งราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันเตา เพราะปัจจุบันราคาก๊าซอ่าวไทยอ้างอิงราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน ในสูตรนี้อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับการประมูลแบบพีเอสซี และอาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์การลงทุนที่ผู้ลงทุนต้องลงทุนสูงขึ้น ขณะที่ปริมาณสำรองลดน้อยลง เพราะมีการผลิตไปแล้ว 40 ปี 

ดังนั้น กรมฯ จึงกำลังศึกษาว่าสูตรราคาใหม่อาจจะอ้างอิงสัญญาแอลเอ็นจีระยะยาว หรือน้ำมันดิบ ซึ่งจะมีข้อกำหนดเรื่องการจ้างงานคนไทยด้วย อาจมีสัดส่วนร้อยละ 70-80 รวมถึงผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องมีประสบการณ์ในการสำรวจและผลิตในแหล่งปิโตรเลียมทั่วโลกที่มีกำลังผลิตไม่น้อยกว่าแหล่งเอราวัณ-บงกช นอกจากนี้ กรมฯ จะเจรจากับ บมจ.ปตท.ถึงหลักเกณฑ์การรับซื้อก๊าซฯ ว่าจะใช้รูปแบบใดที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของภาครัฐ

“การจะปรับสูตรรับซื้อก๊าซเอราวัณ-บงกช ก็จะให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงทั้งราคาโลกและการลงทุนใหม่ที่จะสูงขึ้น โดยหลักเกณฑ์ก็จะให้ได้ราคาที่ไม่สูงไปกว่าเดิมมากนัก เพื่อไม่ให้กระทบค่าไฟฟ้า ส่วนพนักงานขุดเจาะสำรวจไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นรายใหม่หรือไม่ ทางกรมฯ จะมีการกำหนดเรื่องการใช้พนักงานคนไทยก็จะช่วยลดปัญหาการตกงานหากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ผลิต” นายวีระศักดิ์ กล่าว


ปัจจุบันผู้ดำเนินการหรือโอเปอร์เรเตอร์แหล่งเอราวัณ ได้แก่ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต ส่วนแหล่งบงกช คือ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ซึ่งผู้บริหาร ปตท.สผ.เคยระบุก่อนหน้านี้ว่าเตรียมพร้อมศึกษาเพื่อเข้าประมูลทั้ง 2 แหล่งที่มีกำลังผลิตใหญ่ที่สุดในอ่าวไทยปัจจุบันผลิตรวมกัน 2,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันและกรมเชื้อเพลิงฯ คาดว่ากำลังผลิตจะลดลงเหลือ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตั้งแต่ปี 2564-2566 

นายสตีฟ กรีน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนเอเชียแปซิฟิกสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทย ว่า เชฟรอนประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนระยะยาวในประเทศ   ซึ่งบริษัทภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับประเทศไทยมาตลอดระยะเวลา 55 ปี โดยได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทยและขณะนี้เชฟรอนอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเข้าร่วมการประมูลแหล่งสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุ  

“เรามีผลการดำเนินงานด้วยมาตรฐานและสถิติด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือและความรับผิดชอบที่ได้รับการยอมรับ ทั้งยังมุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาสังคมผ่านโครงการต่าง ๆ มาโดยตลอด  และขณะนี้เชฟรอนอยู่ระหว่างการเตรียมการ เพื่อเข้าร่วมในการประมูลแหล่งสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุ เพื่อคงความต่อเนื่องในการผลิตพลังงาน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย” นายสตีฟ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น