แพทย์เตือนขนตาแอลอีดี เสี่ยงต้อลม ต้อกระจก

แพทย์เตือนขนตาแอลอีดีติดเปลือกตา อันตรายแม้ความร้อนไม่มาก แต่เป็นแสงอัลตราไวโอเลต ระยะสั้นทำให้แสบตา ตาแห้ง ระยะยาวเสี่ยงเกิดต้อลม ต้อกระจก  


รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ อาจารย์ประจำภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง กรณีที่โลกโซเชี่ยลได้มีการแชร์ภาพ และวิดีโอ ที่นำเอาหลอดไฟแอลอีดี (LED) มาติดบริเวณใต้ดวงตาและบนเปลือกตาเพื่อความสวยงามที่กำลังแพร่หลายในต่างประเทศ ว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าเป็นแฟชั่นที่เริ่มเกิดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ ก่อนที่จะเริ่มขยายความนิยมไปยังฝั่งอเมริกา ซึ่งในส่วนของประเทศไทยยังไม่เป้นที่รู้จักมากนัก มีดเพียงแค่กลุ่มเล็กๆที่เร่มนำมาใช้ 


ขนตาแอลอีดี ดังกล่าวพบว่ามี 2 แบบ คือ แบบที่ติดใต้ตา และแบบที่ติดบนเปลือกตา ซึ่งผิวหนังรอบดวงตาถือเป็นจุดที่บอบบางที่สุดในร่างกาย เมื่อมีอะไรไปกระทบ หรือสัมผัสจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมากกว่าผิวหนังส่วนอื่นๆ การนำเอาขนตาที่มีหลอดไฟแอลอีดีไปติดไม่ว่าจะบนเปลือกตา หรือด้านล่าง จากการวิเคราะห์ในทางจักษุแพทย์มีความเสี่ยง 3 ประการ อย่างแรก คือ การเปลี่ยนแปลงรอบรอบๆผิวหนังดวงตา คือ จะทำให้เกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ได้เร็วกว่าคนปกติทั่วไปหลายเท่า

อย่างที่สอง เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมที่มีน้ำหนักไปวางบนเปลือกตา จะทำให้ผิวหนังต้องทำงานหนัก กระพริบตาบ่อย แล้วเกิดความเมื่อยล้า ทำให้หนังตาตกได้ง่ายขึ้น เมื่อสะสมไปนานๆอาจจะต้องแก้ไขด้วยการศัลยกรรม


และความเสี่ยงที่สาม เป็นส่วนที่น่าห่วงที่สุด คือ แสงไฟที่ออกมาจากหลอดแอลอีดี เป็นแสงอัลตร้าไวโอเลต แม้ว่าอายุการใช้งานของแบตเตอรี่  1 ครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งดูแล้วไม่อันตรายมากนัก แต่ถ้าหากสะสมไปนานๆเกิดผลเสียแน่นอน ในระยะสั้น แสงและความร้อนจากหลอดไฟทำให้น้ำตาระเหย แสบตา ตาแห้ง รวมทั้งมีอาการเคืองตาได้  ส่วนในระยะยาวจะทำให้เกิดต้อเนื้อ ต้อลม ต้อกระจก จอตาเสื่อมได้

ส่วนจะเป็นอัตรายถึงตาบอดหรือไม่ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังไม่ได้เห็นของจริงว่าวัสดุ อุปกรณ์ หรือระบบไฟทำจากอะไร ทางแพทย์จึงยังไม่สามารถตอบได้ตอนนี้ ทั้งนี้หากกระแสไฟไม่ได้แรงมาก จนทำให้เกิดการช็อตของระบบไฟก็ไม่น่าทำให้ตาบอด  ทั้งนี้ก็อยากจึงอยากขอเตือนประชาชน เพราะถ้าจะไปห้ามไม่ให้ใช้คงจะยาก โดยเฉพาะในเด็กวัยรุ่น จึงอยากจะขอให้ระวัง ตรวจสอบอุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัย  เพราะหากเกิดผลเสียตามมาจะไม่คุ้มกับความสวยงามชั่วครั้งคราวที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ รศ.นพ.นริศ ยังกล่าวฝากไปถึงสุภาพสตรีที่นิยมใช้เครื่องสำอางค์ที่เกี่ยวข้องกับดวงตาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่า จะเป็น อายส์ชาโดว์  หรืออายไลน์เนอร์ หากตรวจดวงตาของคนกลุ่มนี้จะพบว่ามีสารเคมีจากเครื่องสำอางค์ละลายสะสมปนเปื้อนอยู่ในน้ำตาด้วยทุกราย  แม้ทางการแพทย์จะยังไม่ระบุว่าเป็นอันตรายมากเพียงใด แต่มีผู้ป่วยหลายรายที่มีอาการระคายเคืองตาจากการใช้เครื่องสำอางค์ แนะนำหากมีอาการระคายเคืองควรหยุดใช้ และรีบพบแพทยืทันที. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า