ศอตช.ให้ศึกษาข้อดี-เสียขรก.ทุกระดับแสดงบัญชีทรัพย์สิน

ทำเนียบรัฐบาล 11 ส.ค.-ที่ประชุมศอตช.ให้ศึกษาข้อดี-เสียให้ข้าราชการทุกระดับแสดงบัญชีทรัพย์สิน ป้องกันทุจริต เตรียมตั้ง ศอตช.เป็นหน่วยงานหลัก สังกัดสำนักนยกรัฐมนตรี เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล  ภายหลังการประชุมนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ ในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช. แถลงผลการประชุม ว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำในที่ประชุมเรื่องการดำเนินคดีทุกกลุ่ม ว่าจะต้องมีความเท่าเทียม ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด โดยยึดหลักความรอบคอบ และไม่นำของเก่ามาปนกับของใหม่ 

“อนุกรรมการได้เสนอให้แสดงบัญชีทรัพย์ของข้าราชการทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มรับราชการ เลื่อนตำแหน่ง พ้นจากตำแหน่ง และเกษียณอายุราชการ เพื่อเป็นการทราบที่มาที่ไปของทรัพย์สิน และเป็นการป้องกัน ปิดโอกาสให้คนได้ยั้งคิด ในการที่จะกระทำผิด โดยนายกรัฐมนตรีขอให้นำไปศึกษาว่ามีประเทศใดดำเนินการในลักษณะนี้บ้าง เพื่อจะศึกษาผลกระทบรอบด้าน ทั้งข้อดี และข้อเสีย โดยให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ศึกษาร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนนำมารายงานในที่ประชุมครั้งต่อไป” เลขาธิการป.ป.ท. กล่าว 


นายประยงค์ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ ศอตช.ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่าภาพรวมก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พบสถานการณ์ทุจริตรุนแรง เนื่องจากการบังคับใช้กลไกลทางกฎหมายมีปัญหา แต่เมื่อรัฐบาลชุดปัจจุบันบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง  ประกอบกับการใช้คำสั่ง คสช. ทำให้การทุจริตลดลง เช่น การตั้งศาลแผนกคดีทุจริต  และการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง  รวมถึงการแก้กฎหมายป.ป.ช. และกฎหมายป.ป.ท. เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วขึ้น ให้โกงเก่าหมดไป โกงใหม่ต้องไม่เกิด และไม่เปิดโอกาสให้โกง  ซึ่งเป็นการกระตุ้นหน่วยงานกว่า 8 พันหน่วยงานให้อยู่ภายใต้ธรรมาภิบาล  โดย 3 ปีที่ผ่านมามีการสร้างกลไกลเพื่อรองรับเป้าหมาย 

“การออกคำสั่งมาตรา 44 ในการย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตว่าได้ดำเนินการไปแล้ว 353 คน ลงโทษไปแล้ว 72 คน ส่วน 58 คน ไม่สามารถดำเนินการความผิดทางวินัยเพราะหมดวาระหรือพ้นหน้าที่ และยังค้าง 193 คน ที่ต้องรอการพิจารณาสอบสวนทางวินัยของต้นสังกัด และสำนวนที่ยังอยู่ในชั้น ป.ป.ช. ซึ่งจะเร่งรัดทั้งสองส่วนให้ดำเนินการรวดเร็ว ส่วนความคืบหน้าของคดีสำคัญ ได้มีการติดตามทั้งในส่วนของคดีซีซีทีวีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คดีการทุจริตเงินทอนวัด คดีที่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และการจ่ายเงินแป๊ะเจี๊ย โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ที่ขณะนี้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมส่งเรื่องให้ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ” เลขาธิการป.ป.ท. กล่าว

นายประยงค์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายฝ่ายกฎหมายเร่งศึกษาการตั้งศอตช.เป็นหน่วยงานหลัก ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อการขับเคลื่อนงานที่สำคัญให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังพิจารณาขยายโครงการโตไปไม่โกง เพื่อสร้างจิตสำนึกตั้งแต่โรงเรียนไปยังครอบครัว โดยเน้นการนำเสนอผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์มากขึ้น และขยายไปสู่ชุมชน รอบโรงเรียนและเตรียมขยายโครงการจากโครงการภาษีไปไหน ไปสู่โครงการระยะที่ 2 ภาษีมาจากไหน ให้ประชาชนได้รับรู้ที่มาของภาษี เฝ้าระวังการใช้จ่ายภาษีอย่างถูกต้องโปร่งใส นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคีเครือข่ายภาคเอกชน เนื่องในวันต่อต้านการทุจริตสากล ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ซึ่งรายละเอียดของงานจะมีการหารือกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นส.ปลา ปลัด อบต.สาว แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ นำข้อความแชตสนทนาและรูปโปร์ไฟล์ของชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ รพ.ชื่อดัง ชื่อ เจ ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วออกมาร้องสื่อมวลชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่า ถูก นายแพทย์คนดังกล่าวหลอกลวง ด้วยวิธีการทักเฟซบุ๊กมาจีบ เมื่อ 21 พ.ย.67 ก่อนจะขอแอดไลน์ระหว่างนั้นมีการพูดคุยวิดีโอคอนสานสัมพันธ์กัน ผ่านไปไม่นานก็หลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแอปฯ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก จนหลงเชื่อร่วมลงทุน     ครั้งแรก หมอเจ ชักชวนให้ลองลงทุน เป็นเงิน 50,000 บาท มีการเติมเงินเข้าระบบ และลองเล่นที่ห้องที่ 1 ตามที่หมอเจแนะนำ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเล่น ปรากฏว่าได้ผลตอนแทน เป็นเงิน 54,000 บาทจริง ต่อมาหมอเจ ก็โน้มน้าวต่อ หากอยากเล่นแบบมีรายได้เยอะกว่านี้ ก็ให้เติมเงินเข้าระบบไปเล่นที่ห้อง 2-10 ตนเห็นว่าครั้งแรกได้เงินจริง […]

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]