กู้ภัยสหรัฐยืนยันการเก็บกู้ร่าง 2 นศ.ขับรถตกหน้าผา มีความสำคัญสูงสุด

สหรัฐ 10 ส.ค.60 – หน่วยงานท้องถิ่นกู้ภัยสหรัฐยืนยันการกู้ภัย-เก็บกู้ตัว 2 นศ.ไทย ที่ขับรถตกเหว สำคัญสูงสุดเตรียมกู้ร่างในหุบเขาที่รถยนต์ติดแผ่นหินอยู่กลางแม่น้ำ สภาพระดับน้ำลดลงจากวันเกิดเหตุ ด้านครอบครัวมีความคิดจ้างบริษัทเอกชนกู้ภัยเอง เพราะคอยมา 15 วันแล้ว  




 ขอบคุณภาพจาก siamtownus

 สถานะล่าสุดการกู้ภัย/เก็บกู้ 2 นศ.ไทย ประสบอุบัติเหตุรถตกหน้าผาที่อุทยานแห่งชาติ Kings Canyon สหรัฐ


หน่วยงานท้องถิ่นเผยช่วงบ่าย (9 ส.ค.)ลงไปเตรียมการในหุบเขาที่รถยนต์ติดแผ่นหินอยู่กลางแม่น้ำ วางแผนวิธีกู้ภัย/เก็บกู้ตัวนักศึกษาทั้งสองเป็นลำดับแรก และรถยนต์เป็นลำดับต่อไป
– ระดับน้ำและสภาพอากาศในอุทยานแห่งชาติ Kings Canyon ค่อย ๆ ลดลงจากสูง 5,000-6,000 ลบ.ฟุต/วินาทีก่อนวันเกิดเหตุ (26 ก.ค.60) เหลือ 2,200 ลบ.ฟุต/วินาที ซึ่งเป็นระดับที่อนุญาตให้ล่องแก่งใน “ความยากระดับกลาง” ในบางช่วงของแม่น้ำได้
– ครอบครัว นศ.ไทย กำลังคิดว่าควรจะจ้างบริษัทเอกชนมากู้ภัยเองเพราะรอคอยมา 15 วันแล้ว
– (10 ส.ค.) ญาติที่ไทย ลุงของน้องกอล์ฟ ยื่นคำร้องสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ขอวีซ่าให้ทีมกู้ภัยจากไทยปฏิบัติภารกิจแทน แม้รู้ว่าคงไม่อนุญาตแต่ต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ ต้องการให้สหรัฐกู้ซากรถโดยเร็วที่สุด

 มีรายงานว่า 14 ส.ค.60 ชุมชนไทยในนครลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนียภาคใต้และนครซานฟรานซิสโกจะจัดการชุมนุมที่นครลอสแอนเจลิสและเมืองเฟรสโนหากหน่วยกู้ภัยไม่กู้ภัย/เก็บกู้

– กระทรวงการต่างประเทศ เชื่อ จนท.ทุกฝ่ายต้องให้ความช่วยตามหลักสากล ขอความเห็นใจให้ครอบครัวผู้สูญเสียไม่ขยายประเด็นสู่การต่อต้าน


ภาพจาก https://www.facebook.com/thaiconsulatela/

วันที่ 9 ส.ค. 2560 กงสุลใหญ่ฯ และครอบครัวของสองนักศึกษาไทยผู้สูญหายที่อุทยานแห่งชาติ Kings Canyon ได้เข้าพบนาง Michelle Steel ตำแหน่งประธาน Supervisory Board of Orange County เพื่อขอให้ประสานงานสนับสนุนให้ Fresno County Sheriff-Coroner’s Office ซึ่งรับผิดชอบการกู้ภัยในกรณีนี้ เร่งดำเนินการโดยเร่งด่วนเพราะนับเป็นกว่าสองสัปดาห์จากวันที่ประสบอุบัติเหตุ


นาง Steel ซึ่งมีความใกล้ชิดมากกับชุมชนไทยในนครลอสแอนเจลิสและผูกพันกับประเทศไทยได้ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นข้างต้นและได้รับการยืนยันว่า กำลังทำแผนปฏิบัติการกู้ภัย/เก็บกู้ โดยในบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงไปเตรียมการในหุบเขาที่รถยนต์ติดแผ่นหินอยู่กลางแม่น้ำ Kings เพื่อวางแผนวิธีกู้ภัย/เก็บกู้ตัวนักศึกษาทั้งสองเป็นลำดับแรก และรถยนต์เป็นลำดับต่อไปถ้าทำได้ ในการดำเนินการนี้มีทหารเข้าร่วมประเมินสถานการณ์ด้วย หน่วยงานท้องถิ่นจะแจ้งแผนกู้ภัยแก่นาง Steel ในโอกาสแรกหรืออาจจะเช้าวันพฤหัสบดี


ในการนี้ นาง Margaret Mims ตำแหน่ง Sheriff-Coroner ซึ่งรับผิดชอบการกู้ภัย/เก็บกู้ได้ทำหนังสือแจ้งนาง Steel ด้วยว่า ตนขอให้ครอบครัวทราบว่าการกู้ภัย/เก็บกู้ตัวนักศึกษาทั้งสองมีความสำคัญสูงสุด (top priority) ในขณะนี้ หน่วยกู้ภัยมีประสบการณ์สูงและกำลังจัดทำแผนที่ทำให้การกู้ภัย/เก็บกู้มีความปลอดภัยสูงสุดที่จะทำให้การกู้ภัยทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตนตระหนักดีว่าเหตุการณ์นี้ยากลำบากสำหรับครอบครัวและเป้าหมายคือการกู้ภัย/เก็บกู้ตัวนักศึกษาด้วยความเคารพที่สุด


สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานงานผ่านนายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส ซึ่งได้ประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ด้วย และได้มีหนังสือถึงกงสุลใหญ่ฯ แจ้งการสนับสนุนความพยายามของสถานกงสุลใหญ่ฯ และชุมชนไทยที่ต้องการให้หน่วยงานท้องถิ่นกู้ภัย/เก็บกู้นักศึกษาไทยโดยด่วน


ในช่วงบ่าย ครอบครัวของนักศึกษาไทยได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีว่า กำลังคิดว่าควรจะจ้างบริษัทเอกชนกู้ภัยนักศึกษาไทยทั้งสองเองเพราะรอคอยการกู้ภัย/เก็บกู้มา 15 วันแล้ว

สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ตรวจสอบระดับน้ำและสภาพอากาศในอุทยานแห่งชาติ Kings Canyon ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ระดับน้ำค่อย ๆ ลดลงมาจากระดับสูง 5,000-6,000 ลบ.ฟุต/วินาทีในช่วงก่อนวันเกิดเหตุวันที่ 26 ก.ค. 2560 เหลือประมาณ 2,200 ลบ.ฟุต/วินาที ซึ่งเป็นระดับที่อนุญาตให้ล่องแก่งใน “ความยากระดับกลาง” ในบางช่วงของแม่น้ำได้ และระดับนำ้อาจจะคงระดับนี้ในช่วงสามสี่วันข้างหน้า ในขณะที่การพยากรณ์อากาศท้องฟ้าแจ่มใสจากนี้และสามสี่วันข้างหน้า

สถานกงสุลใหญ่ฯ ทราบว่าในวันจันทร์ที่ 14 ส.ค. 2560 ชุมชนไทยในนครลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนียภาคใต้และนครซานฟรานซิสโกจะจัดการชุมนุมที่นครลอสแอนเจลิสและเมืองเฟรสโนหากหน่วยกู้ภัยไม่ดำเนินการกู้ภัย/เก็บกู้


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก กงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
https://www.facebook.com/thaiconsulatela/

——————————————————


 ญาติเรียกร้องสหรัฐกู้ซากรถนักศึกษาไทยตกหน้าผา



กทม. 10 ส.ค.-ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนที่นักศึกษาไทยประสบอุบัติเหตุรถตกเหวที่สหรัฐอเมริกา แต่ยังไม่มีการกู้ซากรถ และยังไม่พบตัวนักศึกษาทั้ง 2 คน ล่าสุดนายเอกชัย ไทยเดชะ ลุงของน้องกอล์ฟ นายภคพล ชัยรัตนทรงพร หนึ่งในนักศึกษาที่ประสบอุบัติเหตุรถตกหน้าผา พร้อมกับน้องมิน นางสาวทิวาดี แสงสุริยฤทธิ์ ขณะเช่ารถขับไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติคิงส์แคนยอน พาร์ค รัฐแคลิฟอร์เนีย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา


โดยญาติได้เข้ายื่นหนังสือผ่าน นายปีเตอร์ เฮย์มอนด์ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อขอวีซ่าให้กับอาสากู้ภัยชาวไทยเดินทางไปกู้ซากรถและค้นหาหลานชายพร้อมเพื่อนสาวที่สหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม แม้จะรู้ว่าทางการสหรัฐคงไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยไทยเดินทางไป แต่ต้องการแสดงให้เห็นว่าทางญาติของผู้สูญหายไม่ได้นิ่งนอนใจ ต้องการเคลื่อนไหวให้ทางการสหรัฐดำเนินการกู้ซากรถโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ในส่วนชุมชนไทยในสหรัฐให้เวลาทางการท้องถิ่นจนถึงวันนี้ หากยังไม่เข้าไปเก็บกู้ซากรถจะรวมตัวกันประท้วงด้วย.-สำนักข่าวไทย


——————————

คำแถลงของสถานทูตสหรัฐฯ กรณีนักศึกษาไทยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย

https://th.usembassy.gov/th/u-s-embassy-statement-thai-student-car-accident-california-th/

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยติดตามสถานการณ์กรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวและมิตรสหายของนักศึกษาไทยทั้งสองคนที่ประสบอุบัติเหตุอันน่าเศร้าครั้งนี้  ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกวีซ่าให้แก่สมาชิกครอบครัวของนักศึกษาทั้งสองคน โดยทางครอบครัวได้เดินทางไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว
——————————

กต.เชื่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องให้ความช่วยตามหลักสากล

ขอความเห็นใจให้ครอบครัวผู้สูญเสียไม่ขยายประเด็นสู่การต่อต้าน

กระทรวงต่างประเทศ 10 ส.ค.-โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผย เจ้าหน้าที่กู้ภัย เตรียม กู้ซากรถ 2 นักศึกษาไทย เชื่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องให้ความช่วยตามหลักสากล ขอความเห็นใจให้ครอบครัวผู้สูญเสียไม่ขยายประเด็นสู่การต่อต้าน

นางบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุถึงกรณี 5 องค์กรชาวไทย เตรียมนัดชุมนุมกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียและผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้เร่งกู้ซากรถ 2 นักศึกษาที่ตกเหวที่อุทยานแห่งชาติ Kings Canyon หลังไม่คืบหน้ามากว่า 2สัปดาห์ว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิของชุมชนคนไทยที่ทำได้เพราะเป็นความร่วมมือร่วมใจกัน แต่ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศและสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแองเจลิส ได้ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด และรับทราบว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนความล่าช้าที่เกิดขึ้นมีหลายปัจจัย ทั้งจากสภาพภูมิประเทศ ,ภูมิอากาศ และลักษณะการไหลของน้ำที่เชี่ยวกราด รวมถึงอุปกรณ์ในการเก็บกู้ซากรถ

โดยล่าสุดวันนี้ทางหน่วยกู้ภัย ได้แจ้งว่าเตรียมทำการเก็บกู้ซากรถใน 1-2 วันนี้ ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส ไทยและกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าจะดูแลคนไทยในต่างแดนและนักศึกษาไทยให้ดีที่สุด 

ทั้งนี้ตั้งแต่มีข่าวทางกงสุลใหญ่ และทุกฝ่ายได้ติดตามให้ความช่วยเหลือ ทั้งทางครอบครัวเรื่องวีซ่าเดินทางมาสหรัฐ และส่งเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก พร้อมนิมนต์พระทำพิธีทางศาสนา เพื่อความสบายใจของญาตินักศึกษา โดยเชื่อว่าการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามธรรมเนียมปฎิบัติตามหลักสากล

อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ที่ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวทางโซเชียล ให้หาข้อมูลให้รอบด้านและน่าเชื่อถือ โดยควรใช้วิจารณญาณ และควรแสดงความเห็นใจ โดยนึกถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวนักศึกษาทั้ง 2 ด้วย ไม่อยากให้ขยายประเด็นไปสู่การต่อต้าน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อเป็นการป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ฝากถึงคนไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ให้ศึกษาเส้นทาง สภาพภูมิอากาศ และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทางเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นด้วย

——————————

ภาพและคลิปจาก www.siamtownus.com

หรือ www.facebook.com/siamtownus
สกู๊ป สองนักศึกษาไทยขับรถตกเหว ญาติถึงแล้ว-เปิดภาพรถที่รอกู้



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]