วันสุดท้าย เปิดศูนย์รับแจ้งการทำงานคนต่างด้าว

กระทรวงแรงงาน 7 ส.ค.-นายจ้างทยอยยื่นขอจ้างต่างด้าวที่ กระทรวงแรงงานต่อเนื่องหลังวันนี้เปิดรับแจ้งวันสุดท้าย ปลัดแรงงานฯ ย้ำปิดรับคิวสุดท้าย 16.30 น.คาดมีแรงงานเข้าระบบรวมกว่า 7 แสนคน ยันหลัง 31 มี.ค.ไม่ผลักดันออกประเทศแน่นอน


บรรยากาศศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ที่กระทรวงแรงงาน ซึ่งเปิดให้บริการวันนี้ (7 ส.ค.) เป็นวันสุดท้าย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  มีนายจ้างเดินทางเข้ามายื่นขอจ้างต่างด้าวกันอย่างต่อเนื่อง โดยยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค.ณ  เวลา 10.00 น.มีนายจ้างยื่นขอจ้างแรงงานต่างด้าว 171,161 ราย แบ่งเป็นยื่นที่ศูนย์ 158,691 ราย ยื่นทางออนไลน์ 12,470 ราย แรงงานต่างด้าวเข้าระบบแล้ว 667,207 คน เป็นเมียนมา 388,113 คน กัมพูชา 192,154 คน ลาว 86,940 คน


ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ยอดสะสมตลอด15วัน ที่ผ่านมาถือว่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าวันนี้หลังปิดรับคิวสุดท้ายเวลา 16.30 น.และดำเนินการเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว จะมีแรงงานเข้าสู่ระบบไม่ต่ำกว่า 7 แสน เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ว่า ตัวเลขน่าจะอยู่ประมาณ 7-9 แสนคน อย่างไรก็ตามสำหรับวันพรุ่งนี้ ที่เป็นวันแรกของขั้นตอนที่ 2 คือการพิสูจน์ความเป็นลูกจ้างนายจ้าง กระทรวงแรงงานมีความพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ ภายใต้การดูแลของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อาทิ กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและสำนักงานประกันสังคม เป็นต้น โดยในพื้นที่ กทม.เปิดให้บริการทั้งหมดกว่า  20 หน่วย ต่างจังหวัด 60 กว่าหน่วย  รวมแล้วทั่วประเทศกว่า 80 หน่วย ซึ่งนายจ้างจะต้องมาตามที่ใบนัดกำหนด และต้องนำลูกจ้างต่างด้าวที่ยื่นลงทะเบียนไว้ พร้อมเอกสารที่นำมายื่นในวันขอจ้างมาด้วย และหากนายจ้างเป็นนิติ มีลูกจ้างจำนวนมาก ให้เตรียมสัญญาจ้าง เอกสารการจ่ายเงินเดือน หรือหลักฐานอื่นมาด้วยเพื่อยืนยัน 


ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า การพิสูจน์นั้นความสำคัญนอกจากจะดูว่าเป็นนายจ้างลูกจ้างจริง ยังดูด้วยว่าแรงงานต่างด้าวเป็นแรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และทำกิจการที่ห้ามทำหรือไม่ โดยขั้นตอนนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.-6 ก.ย.2560  คาดวันพรุ่งนี้ที่ศูนย์กระทรวงแรงงาน มีนายจ้างกว่า 500 คน นำต่างด้าวกว่า 1,500 คนมาพิสูจน์ความสัมพันธ์  หากพบว่าเป็นลูกจ้างนายจ้างกันจริง  เจ้าหน้าที่จะออกใบรับรองให้เพื่อดำเนินการเข้าสู่การพิสูจน์สัญชาติต่อไป เพื่อทำงานต่อได้จนถึงวันที่ 31  มี.ค.2561 และหากสิ้นสุดการอนุญาตแล้ว ยืนยันจะไม่ผลักดันออกนอกประเทศ แต่จะต่ออายุให้ทุกๆ 2 ปี

อย่างไรก็ตาม สำหรับการแก้ไข พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ ให้มีความเหมาะสมก่อนที่ระยะเวลาการชะลอโทษจะหมดลง วันที่ 30 ส.ค.นี้ จะเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งตัวเเทนสมาคมอาชีพต่าง ๆ  เข้าหารือในการกำหนดอัตราโทษใหม่  และกำหนดอาชีพสงวนให้ตรงความต้องการ ในการใช้งานจริงมากที่สุด  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่