ตระกูลอินทามระ เตรียมฟ้อง กทม.ผิด ม.157

.ตระกูลอินทามระ เตรียมฟ้อง กทม.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157เหตุคำสั่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ กทม.เปลี่ยนชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัยไปเป็นถนนอินทามระ

กทม. 6 ส.ค.ตระกูลอินทามระ เตรียมฟ้อง กทม.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157กรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า กทม. เตรียมแจกแบบสอบถามไปยังประชาชนในพื้นที่เขตดินแดง และเขตพญาไท เกี่ยวกับคำสั่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ กทม.เปลี่ยนชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัยไปเป็นถนนอินทามระ ภายใน 180 วันนับแต่คดีถึงที่สุด


นายกฤษฎา อินทามระ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า การกระทำดังกล่าวของผู้บริหาร กทม.ถือเป็นการไม่เคารพคำพิพากษาของศาล และยังเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเมื่อดูจากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ได้วินิจฉัยไว้ในตอนท้ายว่า.. “ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้า ยังไม่ได้ดำเนินการพิจารณาให้ครบถ้วนตามหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฎิบัติ อันเป็นการละเลยต่อหน้าที่..” ซึ่งจากคำวินิจฉัยดังกล่าว ตระกูลอินทามระ สามารถนำไปขยายผลเพื่อฟ้องคดีอาญา ตาม มาตรา 157 กับผู้บริหาร กทม.ทั้งในอดีตและปัจจุบันให้ตกเป็นจำเลยได้ในทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบ 180 วันเสียก่อน เพราะคำว่า “ละเลยต่อหน้าที่” ตามที่ศาลปกครองสูงสุดกล่าวถึงนั้น เป็นความหมายเดียวกันกับคำว่า.. “ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่”..ตาม มาตรา 157 

 นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า สำหรับองค์ประกอบความผิดตาม มาตรา 157 การกระทำของจำเลยจะต้องมีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด เมื่อข้อเท็จจริงเรื่องถนนอินทามระนี้ กทม.มีทะเบียนประวัติถนนปี2503 อยู่ในมือตั้งแต่แรกแล้ว แต่ผู้บริหาร กทม.ไม่นำทะเบียนประวัติถนนปี 2503 มาบังคับใช้อย่างตรงไปตรงมา มิหนำซ้ำยังบิดเบือนข้อเท็จจริง และปิดบังอำพรางเพื่อให้ประชาชนสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำของ ผู้บริหาร กทม. ย่อมมีเจตนาทำให้คุณงามความดีของตระกูลอินทามระได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก  แต่คุณงามความดีที่ตระกูลอินทามระได้สร้างสมมาทั้งหมดนั้นกลับไปตกอยู่กับ ตระกูลพระสุทธิสารวินิจฉัย จึงถือว่าครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 157 แล้ว ดังนั้น ตระกูลอินทามระ จึงเห็นสมควรมอบหมายให้ตน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้บริหาร กทม.ให้ตกเป็นจำเลยในความผิดอาญา ตามมาตรา 157 ทันทีหาก กทม.ยังเดินหน้าแจกแบบสอบถาม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย