ปทุมธานี 4 ส.ค.- ปทุมธานีรับมือน้ำเหนือหลากก่อนเข้าสู่ กทม. ระบายตามแผนบริหารจัดการผ่านคลองสายหลักลงสู่เจ้าพระยาออกอ่าวไทย เฉพาะวานนี้ระบายได้กว่า 6 ล้าน ลบ.ม. เตือนชุมชนริมฝั่งเจ้าพระยา อ.สามโคก ระวังน้ำเอ่ออีกช่วงน้ำทะเลหนุนสูง 7-11 ส.ค.นี้
ตามที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้รับมอบหมายจากนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้ประสานการทำงานกับชลประทานจังหวัดและหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับสถานการณ์น้ำและการเร่งระบายอย่างเป็นระบบของการเปิดบานประตูระบายน้ำ และเดินเครื่องสูบน้ำ 32 เครื่อง เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่และ กทม. เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เขื่อนเจ้าพระยาได้ปล่อยน้ำออกมาจำนวนมาก ทำให้บ้านเรือนริมน้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ อ.สามโคก และ อ.เมืองบางส่วนได้รับผลกระทบ
สำหรับวานนี้ (3 ส.ค.) สามารถระบายน้ำได้รวมปริมาณ 6.11 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้แก่ 1. ระบบคลองรังสิตฝั่งตะวันตกลงแม่น้ำเจ้าพระยา2. คลองเปรมประชากรฝั่งใต้ สูบแบ่งน้ำจากฝั่งดอนเมือง กทม. ระบายลงคลองรังสิต 3. คลองหกวาสายล่างสูบน้ำจากฝั่งลำลูกกา ปทุมธานี และฝั่งสายไหม คลองสามวา หนองจอก กทม. ผันไปทางตะวันออก 4. ระบบสูบริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และ 5. ระบบคลองระพีพัฒน์แยกใต้(คลองสิบสาม) ระบายผ่านคลองรังสิตฝั่งตะวันออกและคลองหกวาสายล่าง ผันไปทางตะวันออก ผ่านแม่น้ำนครนายก บางปะกงลงสู่อ่าวไทย ทั้งนี้ การบริหารการพร่องน้ำจะให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและปลอดภัย
ด้าน พล.ต.พัลลภ เฟื่องฟู ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ผบ.พล.ปตอ.) กล่าวว่า จากการร่วมลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในเขต จ.ปทุมธานี บริเวณประตูระบายน้ำบางไทร c29 พบว่า อัตราการไหลของน้ำเฉลี่ย 1,675 ลบ.ม./วินาที ในช่วงที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำ ทำให้น้ำเอ่อตลิ่งบางจุดท่วมชุมชนริมฝั่งของ อ.สามโคก และระยะนี้พื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยายังต้องรับมือต่อไปอีก เนื่องจากวันที่ 7-11 สิงหาคมนี้ จะเกิดน้ำทะเลหนุนสูง อาจทำให้พื้นที่ริมฝั่งได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังไว้แล้ว ส่วนทหารพร้อมให้ความช่วยเหลือหากมีเหตุเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย