นาทีระทึก! กู้ภัยช่วยคนติดโขดหินสันฝายกลางแม่น้ำปิง

กำแพงเพชร 1 ส.ค.-เรือหางยาวล่ม คนงานลอยไปติดสันเขื่อนฝายน้ำล้นกลางแม่น้ำปิง ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก กู้ภัยเข้าช่วยใช้เวลากว่า 3 ชม.


คนงานดูแลบำรุงท่อดูดทรายโป๊ะดูดทราย บริเวณเหนือเขื่อนฝายน้ำล้นโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 1 สิงหาคม 2560 เป็นเรือหางยาวล่ม คนงาน 5 คนลอยไปติดที่สันเขื่อนฝายน้ำล้น ท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว คนงาน 4 คนได้ลอยไปตามน้ำ เรือปลาของชาวบ้านช่วยกลับเข้าฝั่ง และถูกเจ้าหน้าที่ชลประทานนำตัวส่งโรงพยาบาล ทั้ง 4 คนได้รับบาดเจ็บที่ตามตัว แขนและขา ฟกช้ำ ดำเขียว ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ส่วนอีกหนึ่งคนนั้นยังคงติดอยู่ที่โขดหินใต้สันเขื่อนฝายน้ำล้น และขอความช่วยเหลือ ทางเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานส่งน้ำท่อทองแดง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถานและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร ได้นำเรือลงไปช่วย แต่เกิดปัญหาเนื่องจากที่สันเขื่อนฝายน้ำล้นนั้น อยู่กลางแม่น้ำปิงที่มีบริเวณกว้าง และจุดเกิดเหตุอยู่ช่วงกลางสันเขื่อน จึงทำให้การช่วยเหลือกู้ภัยช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ได้นำเรือไปเทียบใกล้สันเขื่อนปรากฏว่าน้ำแรงและไหลเชี่ยวจึงได้หย่อนเชือกลงไปช่วยเหลือ ตั้งแต่ช่วงเวลาเกิดเหตุ 08.30 นาทีจนเวลา 11.30 น.การช่วยเหลือก็ยังคงดำเนินต่อไป ยังคงไม่สามารถนำตัวคนงานที่ประสบภัยกลับเข้ามายังฝั่งได้ สภาพของผู้ประสบ กอดอยู่บนโขดหินใต้สันเขื่อนที่มีน้ำไหลมาปะทะกับตัวทำให้ต้องใช้กำลังในการที่จะยึด โขดหินไม่ให้ไหลไปตามกับกระแสน้ำ ซึ่งใต้สันเขื่อนนั้นจะมีโขดหินเป็นหินทิ้งสร้างสันเขื่อนฝายก้อนใหญ่เกรงว่าจะไปกระแทกทำให้ได้รับอันตราย การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ที่ลงไปช่วยเหลือก็พลัดลอยไปติดโขดหินอีกคน 


การวางแผนช่วยเหลือโดยใช้เชือกจึงล้มเลิกไป เนื่องจากกระแสน้ำปิงไหลแรงเกินกว่าจะพาผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่กลับฝั่งได้ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร จึงต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ และใช้ท่อทุ่นลอย ยาว 50 เมตร จากโป๊ะดูดทราย เคลื่อนย้ายให้ตรงกับผู้ประสบภัย จากนั้นได้ปล่อยลอยโป๊ะ ให้ปลายท่อเข้าใกล้ คว้าต้วผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย โดยใช้เวลาในการกู้ภัยช่วยคนนานถึง 3 ชั่วโมง และใช้เวลาในการกู้เรือหางยาวกลับคืนมาได้อีก 3 ชั่วโมง รวมเป็น 6 ชั่วโมง


ภายหลังทราบว่าผู้ประสบเหตุรายนี้ชื่อว่า นายรุ่งโรจน์ อายุ 49 ปี ชาวจังหวัดสุโขทัย คนงานซ่อมบำรุงโป๊ะดูดทราย โครงการชลประทานส่งน้ำท่อทองแดงที่มีหน้าที่ในการขุดหรือดูดทราย ตะกอนดิน ตามโครงการขุดลอกตะกอนทราย ที่ตื้นเขินช่วงบริเวณ ปากทาง คลองส่งน้ำท่อทองแดง ไปหล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร สุโขทัย ไม่ให้ตื้นเขิน ระหว่างติดตั้งเพิ่มเติมปลายท่อ เพื่อให้ยาวขึ้น เรือหางยาวที่ลาก ทุ่นท่อได้ลอยไหลไปใกล้สันเขื่อน ก่อนที่จะถูกน้ำดูดไปจนเรือจม ทุ่นลอยกับท่อก็จมหายไป ตนยืนอยู่บนท่อโป๊ะ จึงกระโดดไปช่วยเพื่อนแต่ไม่ทัน ไปติดอยู่กับโขดหิน ส่วนเพื่อนที่ลอยไป 4 คน มีเรือหาปลาชาวบ้านอยู่ใต้สันฝายพอดี จึงถูกช่วยเหลือรอดชีวิตไปได้ ด้านเจ้าหน้าที่พลัดไปติดโขดหินด้วย ชื่อนายเดชาวัฒน์ อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ EAT ทีมเผชิญสถานการณ์วิกฤติ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร เล่านาทีระทึกว่า เพิ่งเดินทางกลังจากช่วยน้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย ถูกเรียกตัวมาช่วยในเหตุการณ์นี้ เบื้องต้นประเมินสถานการณ์ใช้เชือกขึงเป็นทางยาวจากโป๊ะท่าเรือ  ต้องเจอกับปัญหาหน้างาน น้ำไหลแรงมาก เกินกว่าที่คิดขณะช่วยผู้ประสบภัย จึงพลาดลอยไปติดโขดหิน ห่างจากผู้ประสบภัย ระหว่างนั้นได้ปรึกษาและให้กำลังใจกับผู้ประสบภัย และคิดแก้ไขปัญหา แม้ว่าจะตกใจบ้างแต่ก็มีสติเพราะได้รับการฝึกมา โดยหาที่ยึดบังกระแสน้ำใต้หินเป็นต้น โดยใช้ก้อนหินก้อนใหญ่บังไว้ ทำให้เราไม่ต้องปะทะกับน้ำแรงมาก เพื่อรอการช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไป นับว่าโชคดีมีหินก้อนใหญ่ช่วยบังน้ำทำให้ และใช้เชือกช่วยยึดก้อนหินไว้ ไม่ต้องสูญเสียพลังหมดแรงไปก่อน เพราะใต้น้ำมีหินก้อนใหญ่ที่อันตรายมาก ถ้าหลุดลอยไปก็จะกระแทกหินเป็นอันตรายได้

นายวินัย ศรีชมภู เจ้าหน้าที่ประจำเรือดูดทรายกรมชลประทาน เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุคนงานได้ลากทุ่นและท่อเหล็กดูดทราย เพื่อที่จะไปต่อเติมที่ปลายท่อให้ยาวขึ้น แต่ระหว่างทางนั้นกระแสน้ำแรง จึงทำให้เรือล้มจมน้ำ คนงาน 4 คนไปชาวบ้านช่วยไว้ได้ เหลือเพียง 1 คน คือนายรุ่งโรจน์ ติดอยู่กับโขดหินฝ่ายน้ำล้น และเจ้าหน้าที่มาช่วยไว้ได้ในที่สุด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย