แพทย์เพชรบุรีแจงเหตุเด็กป่วยเสียชีวิตเฉียบพลัน-ยันไม่ได้ทอดทิ้งผู้ป่วย

เพชรบุรี 22 ก.ค.-นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีพร้อม ผอ.รพ.พระจอมเกล้า ออกมาชี้แจงเสียงวิจารณ์ในโซเชียลกรณีผู้ป่วยวัย 15 รอแพทย์นานจนเสียชีวิต ยืนยันแพทย์ให้การรักษาจนสุดความสามารถ ไม่ได้ทอดทิ้งผู้ป่วย แต่เด็กมีอาการหนักมาก เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตกเป็นเหตุให้เสียชีวิตเฉียบพลัน ยากที่จะรักษาได้ทันท่วงที



จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมข้อความ อ้างว่า รพ.แห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี ให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องรอจนเส้นเลือดใหญ่ในกระเพาะแตกตาย จึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าให้ 1 ชีวิต ต้องเสียไปกับคำว่า “รอ” จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์


เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(22 ก.ค.) ที่ห้องประชุม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี นพ.ประจักษ์ วัฒนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย นพ.สาธิต รัตนศรีทอง ผู้อำนวยการ รพ.พระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.ธีธัช อายุ 15 ปี ผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อจาก รพ.ชะอำ มายัง รพ.พระจอมเกล้า อ.เมืองเพชรบุรี เมื่อเวลา 13.30 น.ของวันที่ 21 ก.ค.2560 ว่า เดิมผู้ป่วยได้เข้าทำการรักษาอาการปวดท้องที่ รพ.ชะอำ เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค.60 แพทย์ได้ทำการตรวจรักษาตามปกติ แต่เด็กไม่สามารถบอกอาการได้มาก แพทย์ที่ตรวจดูแลเป็นหมอเด็กและเป็นผู้เชี่ยวชาญ แรกตรวจเข้าใจว่าอาจเป็นอาการกระเพาะทะลุ แต่วินิจฉัยไม่ได้ เพราะตรวจไม่เจอ มีการเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ทุกอย่าง แต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั่งเช้าวันที่ 21 ก.ค.ดูแล้วว่าอาการไม่ปกติ จึงได้ส่งต่อมายัง รพ.พระจอมเกล้า เพื่อวินิจฉัยโรคให้ละเอียด

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า เด็กมาถึง รพ.พระจอมเกล้า เวลา 13.30 น.วันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเข้าตรวจที่แผนกอายุรกรรมในเวลา 14.04 น. และเข้า x-ray เวลา 14.30 น.ได้ฟิล์ม ส่งให้แพทย์ทำการวินิจฉัยอาการ ระหว่างรอผลเด็กเป็นลม หมอทำการเจาะเลือด ปฐมพยาบาล กระทั่งเวลา 14.45 น.ส่งมายังห้องฉุกเฉินเข้าหาหมอ จากนั้นเด็กความดันตก จึงทำการตรวจ ให้น้ำเกลือและเจาะเลือด แพทย์เวรเข้ามาดูอาการ จากนั้นนำเข้า ct scan ตวจคลื่นหัวใจ ทำการ ct scan ซ้ำ เนื่องจากมีอาการผิดปกติ ระหว่างรอฉีดยาแก้ปวด แพทย์สงสัยเส้นเลือดโป่งพองในช่องท้อง เด็กเริ่มกระสับกระส่าย แพทย์ทราบอาการว่าเกิดจากเส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก ซึ่งเป็นอาการที่ยากต่อการรักษาและไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะทำการรักษาโรคนี้ได้ ต่อมาเวลา 16.38 น.เด็กไม่มีชีพจร แพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจ ให้เลือด 2 ถุง สลับการปั๊มหัวใจ กระทั่งเวลา17.15 น.เด็กจึงเสียชีวิต ซึ่งสุดที่จะทำการรักษาได้จริงๆ 

“คณะแพทย์และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรู้สึกเสียใจ แต่ยืนยันไม่ใช่เป็นการทิ้งผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยมาวันทำการปกติ แพทย์พยาบาลเองก็อยู่และทำการตรวจรักษา ไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด” นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี กล่าว


ด้าน นพ.สาธิต รัตนศรีทอง ผอ.รพ.พระจอมเกล้า กล่าวว่า จากการตรวจสอบการรักษาอาการของแพทย์และบันทึกต่างๆ ก็สอดคล้องกัน ว่าตั้งแต่รับตัวผู้ป่วยมา ไม่มีการทอดทิ้งและอยู่ในระหว่างการทำการรักษา แต่บางช่วงก็อยู่ในระหว่างรอผลการวินิจฉัยจากเครื่องมือ เพราะโรคนี้ต้องใช้คอมพิวเตอร์ หรือการทำซีทีสแกนเท่านั้นจึงจะพบ เราทำทุกอย่าง อาจมีช่วงระหว่างรอผลการอ่านฟิล์ม ที่อาจมองว่าคนไข้ต้องรอ ซึ่งขณะรอผลอ่าน แพทย์พยาบาลก็ได้ทำการรักษาอาการที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น อาการเป็นลม ชีพจรไม่ทำงาน 

“จากภาพที่เห็น ยืนยันได้ว่าแพทย์ได้ทำการรักษาเป็นไปตามขั้นตอน แต่โรคดังกล่าว คือ เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอก ที่มีอาการเปราะบางและแตก เป็นอาการที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเฉียบพลัน สุดที่จะทำการรักษาได้ทันท่วงที” ผอ.รพ.พระจอมเกล้า กล่าว

ในส่วนของการเยียวยานั้น นพ.ประจักษ์ กล่าวว่า จะเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาในส่วนของเหตุสุดวิสัย ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อทำการเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้ป่วยด้วย แต่สุดความสามารถจริงๆ ด้วยข้อจำกัดหลายประการ เนื่องจากโรคดังกล่าว เป็นโรคที่ยากต่อการวินิจฉัย และด้วยสภาพของพื้นที่ ถึงแม้จะวินิจฉัยอาการได้ก็จริง แต่ก็ไม่มีผู้เชี่ยวชาญทำการผ่าตัดรักษาได้ ต้องส่งต่อ แต่ผู้ป่วยได้เสียชีวิตก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกค จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย