กรุงเทพฯ 21 ก.ค. – สนข.เดินหน้าผลักดันพิษณุโลกศูนย์กลางโลจิสติกส์ เชื่อมเหนือ-อีสาน-อาเซียน หนุนเศรษฐกิจจังหวัดโต 2 เท่า สร้างรายได้ 4,000 ล้านบาทภายในปี 2566
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่มีความพร้อมด้านภูมิประเทศ ซึ่งศูนย์กลางของภาคเหนือตอนล่างเชื่อมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญอยู่ในแนวเส้นทาง North – South Economic Corridor (NSEC) และ East – West Economic Corridor (EWEC) สามารถเชื่อมต่อไปยังเมียนมาร์ สปป.ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ทำให้จังหวัดพิษณุโลกมีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าการบริการในภูมิภาคและประเทศเพื่อนบ้านได้ และเกิดการยกระดับศักยภาพของจังหวัดพิษณุโลกให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกและ สนข.ร่วมกันศึกษาความเหมาะสมการบริหารจัดการและกระจายสินค้าจังหวัดพิษณุโลก เพื่อศึกษาศักยภาพการพัฒนาและปัจจัยที่เอื้อต่อระบบเศรษฐกิจของจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์อย่างแท้จริง และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของจังหวัดพิษณุโลกที่ว่า “เมืองบริการเศรษฐกิจและสังคมสี่แยกอินโดจีน” เบื้องต้นแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.ศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ ดำเนินการบรรจุภัณฑ์รับฝากและกระจายสินค้า รวมถึงการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ 2. ศูนย์การค้าส่งค้าปลีกและโลจิสติกส์ ดำเนินการซื้อขายสินค้า ทั้งค้าปลีกและค้าส่งควบคู่ไปกับการกระจายสินค้า 3.ศูนย์ผลิตอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ให้บริการโลจิสติกส์ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการขนส่งและกระจายสินค้าให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่โดยรอบ มีบริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมทางโลจิสติกส์ และ 4.เขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ รัฐเป็นผู้กำหนดพื้นที่ทำกิจกรรมโลจิสติกส์ภายในมีการแบ่งพื้นที่ให้ผู้ประกอบการเช่าหรือซื้อ โดยผู้บริหารศูนย์ฯ เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารและทำการตลาด รวมถึงติดต่อให้มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามาในพื้นที่
ทั้งนี้ การพัฒนาเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นและภูมิภาค คาดว่าจะส่งผลให้รายได้มวลรวมของจังหวัด จีดีพีมีอัตราสูงขึ้นมากกว่าอัตราการขยายตัวร้อยละ 3.7 และคาดว่าเศรษฐกิจของจังหวัดจะเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้สู่จังหวัดประมาณ 4,000 ล้านบาท ภายในปี 2566 รวมถึงเพิ่มศักยภาพของจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย