เตรียมจัดพิธีสมโภชพระปรางค์วัดอรุณฯ

วัดอรุณราชวรารามฯ 21 ก.ค.- ก.วัฒนธรรม ร่วมกับวัดอรุณฯ เตรียมจัดงานสมโภชพระปรางค์อย่างยิ่งใหญ่ รื้อนั่งร้านกลางเดือน ส.ค. เพื่อเผยความงดงามขององค์พระปรางค์ สัญลักษณ์สำคัญของไทย 


พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานสมโภชพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ครั้งที่ 1 ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร มีวาระการประชุมสำคัญ ทั้งการสรุปผลการดำเนินงานบูรณะซ่อมแซมพระปรางค์วัดอรุณฯ วัน-เวลาในการเตรียมจัดงานสมโภชฯ ช่วงปลายปีนี้ โดยมีพระศากยปุตติยวงศ์ (ต่อศักดิ์ สุนฺทรวาที) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนจากกองบัญชาการทหารบก-ทหารเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม  

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า พิธีสมโภชพระปรางค์วัดอรุณฯ จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2560 – 5 มกราคม 2561 รวมระยะเวลา 10 วัน 10 คืน หลังมีโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ ตั้งแต่ปี 2556-2560 รวมระยะเวลา 5 ปี โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม องค์พระปรางค์ประธานเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือขัดทำความสะอาดคราบดำ บูรณะส่วนฐานสิงห์ บันได กำแพงแก้ว ซุ้มประตู พื้น ศาลาเก้าห้อง คาดว่าจะนำนั่งร้านออกทั้งหมดกลางเดือนสิงหาคมนี้  


สำหรับกิจกรรมสำคัญในพิธีสมโภชพระปรางค์วัดอรุณฯ จะเป็นการร้อยเรียงวัฒนธรรม ประเพณี การแสดง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การถวายราชสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสิน การแสดงหนังใหญ่ หุ่นละครเล็ก นิทรรศการเล่าขานตำนานวัดอรุณฯ เล่าเรื่อง 250 ปี กรุงธนบุรี  มีการแสดงสำคัญของกองทัพเรือ จำลองกระบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานได้เห็นถึงความงดงามของประเพณีวัฒนธรรมแต่ละยุคสมัย และวันที่ 31 ธันวาคม จะจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี และตักบาตรต้อนรับปีใหม่ โดยกำหนดกิจกรรมดังกล่าวไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยวปี 2561 ด้วย

นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังเตรียมเปิดตัววัดอรุณฯ ในฤดูกาลเปิดการท่องเที่ยว และเสนอขอเปิดการท่องเที่ยว ทั้งกลางวัน กลางคืน ฉายหนังกลางแปลง ดึงชุมชนรอบวัดเข้ามามีส่วนร่วม จัดตลาดย้อนยุค สามารถท่องเที่ยวบริเวณรอบวัด กระจายรายได้สู่ชุมชน เดินชมวัดและชุมชน และให้เป็นการท่องเที่ยวที่ถาวร เปิดตัววัดอรุณฯ ริมน้ำเจ้าพระยามุมมองใหม่ เป็นการส่งเสริมทั้งศาสนา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว 


พระศากยปุตติยวงศ์ (ต่อศักดิ์ สุนฺทรวาที) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายการเริ่มต้นที่ดี ฝ่ายบ้านเมืองและวัดมาร่วมกันพัฒนาแผนแม่บทจัดการท่องเที่ยวให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะวัดอรุณฯ ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยว หรือแลนด์มาร์กของไทย นอกจากนี้ ยังหารือถึงความร่วมมือด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกของนักท่องเที่ยว หากมีการเปิดวัดช่วงเวลากลางคืน อาจมีการแสดงทางวัฒนธรรม ทุกวันเสาร์ต้นเดือน ทั้งนี้ ยังมีการหารือเรื่องการสมโภชหลังบูรณะแล้วเสร็จ ซึ่งองค์พระปรางค์เป็นมิ่งขวัญของบ้านเมืองมายาวนาน จะฉลอง 10 วัน 10 คืน เป็นวันเอาฤกษ์เอาชัย เลข 10 สื่อถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 แต่ละวันมีกิจกรรมสวดมนต์ทุกวัน รำถวายพระปรางค์ใช้คนรำกว่า 500 คน ทุกวัน มหกรรมกลอง 108 มหามงคล รวมกลองจากทุกภาคทั่วประเทศอย่างยิ่งใหญ่ และยังเป็นครั้งแรกที่คนไทยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการบูรณะพระมหามงกุฎเหนือยอดนภศูล เป็นจำนวนเงิน 35 ล้านบาท นอกเหนือจากงบประมาณรัฐในการบูรณะองค์พระปรางค์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เมื่อทางวัดประกาศเปิดให้มีส่วนร่วมโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ดังกล่าว ทุกคนต่างอยากมีส่วนร่วม นั่นคือความงดงามของคนไทย 

ด้านนายสุรชัย จันทร์เงิน นายช่างโยธา กรมศิลปากร กล่าวว่า องค์พระปรางค์แล้วเสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงรื้อนั่งร้านเท่านั้น โดยจะทยอยรื้อจากบนลงล่าง และทำความสะอาดคราบดำต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้ สำหรับการบูรณะที่เริ่มตั้งแต่ปี 2556 คือ บูรณะพระปรางค์ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ บูรณะมณฑปด้านทิศเหนือ ใต้ ออก ตก บูรณะประติมากรรมภายในพระปรางค์ ติดตั้งเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนในองค์พระปรางค์ เป็นตัวบ่งบอกตำแหน่งฐานและช่วยดูการทรุดตัวขององค์พระปรางค์ โดยการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งนี้ใช้วัสดุใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด เน้นความละเอียดของชิ้นงาน มีบางอย่างที่ใช้เทคนิคแบบโบราณ ทั้งส่วนกระเบื้องเคลือบ การเปียกทอง การติดประดับอัญมณีด้วยเทคนิคพิเศษ เพื่อความคงทนแข็งแรง นับเป็นการบูรณะครั้งใหญ่ที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย