พ่อ “แจ้” ตั้งทนายสูคดีหั่นศพ เชื่อลูกสาวไม่ได้ร่วมฆ่า “น้องแอ๋ม”

ขอนแก่น 18 ก.ค.-พ่อ “แจ้” แก๊งฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” ตั้งทนายสู้คดี เชื่อลูกสาวไม่ได้ร่วมฆ่า และไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายผู้ตาย


จากกรณี “น้องแอ๋ม” วาริสรา กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี ถูกฆ่าหั่นศพยัดถังฝังดินในพื้นที่บ้านโนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น กระทั่งตำรวจได้ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ได้แก่ นายวศิน นามพรหม อายุ 25 ปี น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ อายุ 21 ปี น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว อายุ 24 ปี น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา อายุ 25 ปี และ น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ อายุ 28 ปี


วันนี้ (18 ก.ค.60) ที่เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่นนายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ บิดาของนางสาวอภิวันทน์ หรือ แจ้ ได้เข้าเยี่ยมลูกสาว ซึ่งในวันนี้ได้เข้าสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากนางสาวแจ้ เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลในการต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้ได้ทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีความ ซึ่งได้ทราบข้อเท็จจริงที่เป็นข้อมูลใหม่ และไม่เคยปรากฎในข่าวมาก่อน ข้อมูลต่างๆ ที่เคยปรากฎต่อสาธารณะในรูปแบบต่างๆ ไปก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะชี้ไปในทำนองที่ว่านางสาวแจ้ มีส่วนร่วมในคดีความทุกขั้นตอน แต่พอได้พูดคุยกับนางสาวแจ้อย่างละเอียดแล้ว พบว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนทราบก่อนหน้านี้ ที่จริงแล้วแจ้ไม่มีเหตุผลที่จะไปทำร้ายผู้ตาย แม้ว่าแจ้จะสนิทกับเปรี้ยวเพราะเคยทำงานด้วยกันก็ตาม โดยหลังจากนี้ในฐานะทนายก็จะนำข้อมูลที่ได้ไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเพื่อเตรียมต่อสู้คดีในชั้นศาล เบื้องต้นมี 2 – 3 ประเด็นที่จะต้องนำขึ้นพิสูจน์ต่อชั้นศาล 


ขณะที่นายสมศักดิ์ บิดาของนางสาวแจ้ กล่าวว่าที่ผ่านตนพยายามที่จะช่วยเหลือลูกสาวมาโดยตลอด ไม่ได้หลบหน้าหรือปิดตัวเงียบ การช่วยเหลือลูกสาวในครั้งนี้ก็หวังว่าจะผ่อนหนักเป็นเบา เพราะจากที่ได้พูดคุยกันกับลูกสาว ก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตายจนเสียชีวิต ไม่ได้ร่วมวางแผนใดๆ เพียงแต่ไปกับผู้ต้องหาที่เหลือเพราะเป็นเพื่อนกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันเท่านั้น ตนไม่ได้เจาะจงว่าลูกสาวเป็นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็มั่นใจว่าลูกสาวไม่มีเหตุโกรธเคืองพอที่จะไปฆ่าผู้ตายได้ นับตั้งแต่ที่ลูกสาวถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำขอนแก่น ตนก็มาเยี่ยมและมั่นให้กำลังใจลูกสาวให้เข้มแข็ง ขอให้หนักกลายเป็นเบาเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ