ก.แรงงาน ปล่อยกู้ปลอดดอกเบี้ย 1 เดือน กว่า 51 ล้าน

กระทรวงแรงงาน 18 ก.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน   เผย 1 เดือน ก.แรงงาน ปล่อยกู้ปลอดดอกเบี้ยแล้วกว่า 51 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแรงงานรับไทยแลนด์ 4.0 


นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้มีประกาศกำหนดวงเงินกู้ยืมและการชำระเงินคืนกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน แบบไม่มีดอกเบี้ย และชำระคืนภายใน 1 ปี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2560 จากระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีสถานประกอบกิจการให้ความสนใจยื่นเอกสารขอกู้จำนวน 10 แห่ง คณะกรรมการส่งเสริมฯ พิจารณาอนุมัติให้แล้ว 3 แห่งเป็นเงินจำนวน 1,479,000 บาท  สำหรับอีก 7 แห่งจะเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ในวงเงิน 2,950,000 บาท  ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการกู้ยืมไปใช้ในการฝึกอบรมพนักงานแล้ว   64 แห่ง เป็นเงิน 51,320,800 บาท จากวงเงินทั้งหมด 67,695,300 บาท คงเหลือเพียง 16,374,500 บาท สิ้นสุด 7 มิถุนายน 2561


สำหรับสถานประกอบกิจการที่กู้ยืมเงินกองทุนฯ ไปใช้พัฒนาพนักงาน และนำไปใช้เกี่ยวกับการพัฒนาฝีมือแรงงานนั้น อาทิ บางบริษัทนำเงินไปใช้ในการพัฒนาบุคลากร ตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จนถึงระดับผู้บริหาร ถึง 29 หลักสูตร เช่น การฝึกอบรมพนักงานอะไหล่ ระดับ 1 และระดับ 2  ช่างซ่อมตัวถังระดับ 1 ระดับ 2 และระดับ 3 การฝึกอบรมแก่ครูฝึกผู้บริหารงานบริการ ผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ให้ความสำคัญของการพัฒนาบุคลากร โดยบริษัทไม่ต้องนำเงินในส่วนการฝึกอบรมของบริษัทมาใช้เลย สามารถนำเงินที่ต้องกันไว้เพื่อการพัฒนาบุคลากรไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ  บางแห่งได้นำเงินกู้ยืมไปใช้ในการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้เกี่ยวกับการจัดทำมาตรฐานฯ เพื่อใช้เฉพาะในสถานประกอบกิจการเอง ซึ่งได้รับประโยชน์ถึง 3 ต่อคือการนำเงินกู้ไปใช้ประโยชน์โดยไม่มีดอกเบี้ย  มีสิทธิรับเงินอุดหนุนเมื่อนำมาตรฐานที่ใช้เฉพาะกิจการไปใช้ตามข้อกำหนด สามารถนับจำนวนพนักงานที่ผ่านการอบรม  ประเมินเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานได้ด้วย  


นอกจากนั้นยังนำเงินกู้ยืมกองทุนฯ ไปใช้จัดอบรมพนักงาน เรื่องการจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงาน ในสาขาช่างซ่อมเครื่อยนต์ดีเซล 6 สูบ สาขาช่างซ่อมบำรุงชุดโม่เดินระบบไฮดรอลิค และสาขาช่างประกอบกระบอกไฮดรอลิค สำหรับปั้นจั่นตอกเสาเข็ม เป็นต้น

นายธีรพล กล่าวด้วยว่า สำหรับการปล่อยกู้เงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานนั้น ต้องการส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานประกอบการให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะฝีมือให้กับพนักงานตนเอง เพื่อเป็นไปตาม 8 วาระปฏิรูปเร่งด่วนของกระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯด้านการเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ไทยแลนด์ 4.0 จึงกำหนดมาตการหลายๆ ด้าน ไม่เพียงการกู้ยืมเงิน ยังมีมาตการอื่นๆ อาทิ  ฝึกอบรมพนักงานเกินกว่าร้อยละ 70 ส่วนที่เกินกว่าร้อยละ 70 นั้น กพร.ยังให้เงินอุดหนุนอีกรายละ 200 บาทต่อคนอีกด้วย

สำหรับผู้ประกอบการที่มีความต้องการนำเงินไปใช้ พัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ และมีศักยภาพสูงขึ้น หรือขอรับเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนในแต่ละกรณี สามารถติดต่อสถาบัน/สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 2643 6039 หรือ 0 2643 4977 170760    .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง