สำนักข่าวไทย 17 ก.ค.-ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เผยเตรียมจัดเจ้าหน้าที่ร่วมดีเอสไอ รับตัว ‘เณรคำ’ หากกลับไทย ย้ำอดีตเณรคำ ขาดจากความเป็นพระ หากแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ต้องถูกดำเนินคดีทางอาญา
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)กล่าวถึงกรณีการติดตามตัว ‘เณรคำ’ โดยทีมอัยการต่างประเทศพร้อมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางไปรับตัวเณรคำ ที่สหรัฐอเมริกา หลังทราบผลคำสั่งของศาลแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ที่สั่งให้ส่งตัวนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ เณรคำ สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้กลับไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ทำหนังสือถึงพศ.เพื่อขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ พศ.ในการช่วยประสานงาน หากอดีตพระวิรพล หรือเณรคำ เดินทางกลับมาไทยด้วยการแต่งกายแบบพระ ซึ่งพศ.ได้จัดเจ้าหน้าที่ไปพร้อมกับดีเอสไอประจำการที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งอดีตเณรคำจะมาในรูปแบบใดเป็นเพียงการคาดการณ์ แต่อย่างไรก็ตามจะยึดตามมติของพระสังฆาธิการ จ.ศรีสะเกษ ที่มีมติให้ พระวิรพล ฉัตติโก หรือเณรคำ ต้องปาราชิกขาดจากความเป็นพระ ตั้งแต่ 13 กรกฏาคม 2556 ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่มีสำนักแล้วซึ่งในส่วนบ้านเมืองก็สามารถดำเนินการในด้านกฎหมายของบ้านเมืองไปได้ส่วนฝ่ายสงฆ์ก็ถือว่าจบลงแล้ว หากเณรคำมาในการแต่งกายแบบพระ จะต้องถูกดำเนินคดีทางอาญา ข้อหา แต่งกายเลียนแบบพระภิกษุ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 บัญญัติว่า ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวชในศาสนาใด โดยมิชอบ เพื่อให้ บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับอดีตเณรคำ เป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับของศาลในคดีฉ้อโกง พรากผู้เยาว์ กระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า15ปีและฟอกเงิน ซึ่งอัยการสูงสุดได้ประสานกับทางการสหรัฐ ตามพ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาพ.ศ.2535 เพื่อขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 ตั้งแต่ปี 2559 จนกระทั่งล่าสุด ศาลสหรัฐได้มีคำสั่งให้ส่งตัวเณรคำเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย .-สำนักข่าวไทย