อุทาหรณ์! 2 ตายายถูกแก๊งนายหน้าที่ดินหลอกตุ๋นสูญเงินกว่าแสน

ชลบุรี 17 ก.ค.-สองตายายชาวชลบุรี ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกให้นำเงินเข้าร่วมลงทุนซื้อที่ดิน สุดท้ายเชิดเงินหนีทิ้งสองตายายไว้ข้างทาง หนำซ้ำยังหลอกเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง วอนตำรวจเร่งติดตามจับแก๊งคนร้าย


นายชิต สุดพุ่ม อายุ 65 ปี และนางนิยม สุดพุ่ม อายุ 65 ปี ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่าถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกให้เอาที่ดินไปจำนำ แล้วหลอกให้นำเงินเข้าร่วมลงทุนซื้อที่ และยังหลอกเอาสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองไป ก่อนทิ้งสองตายายไว้ข้างทาง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ห้วยใหญ่ จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งขอให้ตำรวจเร่งติดตามจับแก๊งคนร้าย เพื่อไม่ให้ไปหลอกลวงชาวบ้านรายอื่นอีก

ตายายทั้งสองเล่าว่า ก่อนวันเกิดเหตุ มีผู้หญิงอายุประมาณ 35-40 ปี แต่งตัวดี เข้ามาที่บ้าน มาสอบถามหาซื้อที่ดิน และเจรจาอยากจะซื้อที่ดินของตนเอง แต่ไม่ขาย และไม่พูดคุยต่อ เพราะกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพ


ผ่านไปอีก 1-2 วัน ผู้หญิงคนเดิมกลับมาอีกครั้ง โดยอ้างว่าจะมาหาซื้อที่ให้นายทุน และให้นายชิตพาไปแปลงที่ดินแห่งหนึ่ง ซึ่งแก๊งต้มตุ๋นวางแผนไว้ว่ามีที่ดินจะขาย และนายชิตน่าจะรู้จัก นายชิตและนางนิยมจึงเดินทางไปกับแก๊งต้มตุ๋น จนถึงที่ดินแปลงดังกล่าวก็ได้โทรนัดเจ้าของที่ดินมาพบ พร้อมโทรหานายทุนที่จะซื้อที่ดินให้มาพร้อมกัน ซึ่งนายทุนและเจ้าของที่ดินก็เป็นแก๊งต้มตุ๋นด้วย   

เมื่อมาถึง เจ้าของที่ดินตัวปลอมก็บอกขายที่ดินแปลงดังกล่าวในราคา 3.5 ล้านบาท แต่ขอเงินวางมัดจำก่อน  500,000 บาท นายทุนก็รีบนำเงิน 500,000 บาท มาวางมัดจำทันที และขอดูโฉนดที่ดิน ซึ่งเจ้าของที่ดินตัวปลอมตอบกลับมาว่าได้ไปจำนองไว้ที่ร้านทองแถวนาเกลือ และต้องนำเงินไปไถ่ถอนมาก่อน

จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพเริ่มออกอุบายให้นายชิตและนางนิยมมาร่วมซื้อที่ โดยเสนอผลกำไรให้เท่าตัว นายชิตตอบปฏิเสธ และขอให้ส่งกลับบ้าน กลุ่มมิจฉาชีพก็เดินทางไปส่งที่บ้าน แต่ระหว่างทางก็พูดจาหว่านล้อมจนนายชิตและนางนิยมคล้อยตาม กลับไปเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง และนำเงินมาให้แก๊งดังกล่าว 100,000 บาท   


จากนั้นได้พาทั้งสองไปร้านทอง ซึ่งเจ้าของที่ดินได้กล่าวอ้างไว้ และหลอกเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเหลี่ยมทอง จากนางนิยมไป โดยอ้างว่าเงินที่ไปถ่ายถอนที่ดินไม่พอ เมื่อถึงร้านทองย่านนาเกลือ แก๊งต้มตุ๋นบอกให้ทั้งคู่เข้าไปดูในร้านทอง แต่ไม่พบทั้งเจ้าของที่ดินและนายทุน เมื่อเอะใจเดินกลับมาที่รถก็ไม่พบรถที่พามาแล้ว จึงมั่นใจว่าถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกเอาเงินและสร้อยคอไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง