พาณิชย์แจงข้อเท็จจริงระบายข้าวสตอกรัฐ

นนทบุรี  14 ก.ค. – กรมการค้าต่างประเทศแจงข้อเท็จจริงการระบายข้าวในสตอกของรัฐ ยืนยันโปร่งใส ตรวจสอบได้ 


นางดวงพร  รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวตามสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นการขายข้าวราคาต่ำเกินจริงและความไม่โปร่งใสในการระบายข้าวล็อตสุดท้ายของรัฐบาล โดยมีการขายข้าวคุณภาพดีในราคาข้าวที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ทำให้รัฐเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000  ล้านบาท และเงินทอนขายข้าว 

กรมการค้าต่างประเทศขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า 1. ข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลที่ผ่านมาที่มีผลการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวแล้ว 17.76 ล้านตัน เป็นข้าวที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ประมาณ 2.2 ล้านตัน เป็นข้าวที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน 14.74 ล้านตัน เป็นข้าวที่ผิดมาตรฐาน 0.73 ล้านตัน และผิดชนิด 0.09 ล้านตัน ซึ่งข้าวเหล่านี้มีทั้งที่ผิดไปจากมาตรฐานมาก และที่ผิดไปจากมาตรฐานน้อยสามารถปรับปรุงคุณภาพได้ และที่มีปัญหาในการปรับปรุงคุณภาพรวมทั้งที่ปรากฏชัดว่าไม่เหมาะแก่การบริโภค


2.ในช่วงแรกที่ปรากฏผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างข้าวว่ามีข้าวที่ผิดมาตรฐานจำนวนมากและ อคส./อ.ต.ก.แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้รับผิดชอบ ซึ่งมีโรงสีบางแห่งขอเสนอซื้อข้าวในโกดังของตน โดยไม่ต้องประมูลและมีเงื่อนไขต้องยุติการดำเนินคดีกับโรงสีเหล่านั้น ซึ่งทางราชการไม่อาจยอมรับข้อเสนอดังกล่าวได้ 3. การระบายข้าวของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ใช้วิธีการประมูลซึ่งเป็นวิธีการที่โปร่งใสตรวจสอบได้ เปิดเผยทั่วไปโดยมีขั้นตอนโดยสรุป คือ ก่อนการระบายข้าวคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสตอกของรัฐต้องเสนอประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวและเสนอประธานกรรมการ นบข.ให้ความเห็นชอบกรอบการประมูลเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว กรมการค้าต่างประเทศในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวจึงออกประกาศจำหน่ายข้าว โดยมีข้อความระบุว่า “คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสตอกของรัฐ โดยมติคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว โดยความเห็นชอบของประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ให้ดำเนินการระบายในสต็อกของรัฐ……………….” ซึ่งเป็นขั้นตอนปฏิบัติการระบายข้าวตามปกติที่ทำมาตั้งแต่การประมูลครั้งที่ 1 จนถึงปัจจุบัน มิได้เป็นการแอบอ้างชื่อแต่อย่างใด

4. สำหรับกรณีข้าวในคลังสินค้า บจก.ประสิทธิ์ชัยอุบล (โซลาร์ไรซ์) 2011 หลัง 9 ที่มีผู้กล่าวอ้างว่าขายข้าวคุณภาพดีราคาที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์นั้น ข้าวในโกดังดังกล่าวเป็นข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/2557 ซึ่งเป็นสัญญาแบบฝากเก็บ โดยเจ้าของคลังต้องเป็นผู้รับผิดชอบคุณภาพและปริมาณข้าวในคลังเป็นข้าวหอมมะลิ มีทั้งหมด 8 กอง ซึ่งมีผลการตรวจสอบถูกต้องตามมาตรฐาน 2 กอง ผิดมาตรฐาน 6 กอง และนำข้าวดังกล่าวออกประมูลขายในการประมูลครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 ซึ่งเป็นการประมูลทั่วไปและเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ผลการประมูลปรากฏว่ามีผู้เสนอซื้อราคากิโลกรัมละ 11.25 บาท ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ราคาขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ จึงไม่ได้รับอนุมัติให้ขาย ทั้งนี้ บจก.ประสิทธิ์ชัยอุบล (โซลาร์ไรซ์) 2011 มีสิทธิประมูล แต่ไม่ปรากฏว่าได้เข้ามาประมูลแต่อย่างใด

5. เนื่องจากการระบายข้าวบางกรณีมีความจำเป็นต้องประมูลขายแบบยกคลังและเนื่องจากข้าวหอมมะลิในคลัง บจก.ประสิทธิ์ชัยอุบล (โซลาร์ไรซ์) 2011 หลัง 9 มีที่ถูกมาตรฐานเพียง 2 กอง อีก 6 กอง เป็นข้าวที่ผิดมาตรฐาน และข้าวที่ผิดมาตรฐานนั้นมี 1 กอง มีผลวิเคราะห์ คือ สภาพข้าวโดยรวมเป็นข้าวที่เสื่อมคุณภาพ เป็นข้าวเน่า ข้าวขึ้นรา เกาะกันเป็นก้อน มีกลิ่นเหม็น และมีฝุ่น ไม่เหมาะแก่การบริโภคเป็นอย่างยิ่ง ไม่สมควรให้มีการระบายเป็นการทั่วไป ควรระบายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดที่ผู้ชนะการประมูลจะต้องนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเท่านั้น ไม่อาจนำไปขายเพื่อการบริโภคของมนุษย์ได้ เพราะอาจจะมีผลกระทบ ต่อสุขอนามัยของมนุษย์จึงได้นำออกประมูลเข้าสู่อุตสาหกรรมในการประมูลครั้งที่ 23 และมีผู้เสนอซื้อในราคากิโลกรัมละ 6.10 บาท ซึ่งในการประมูลครั้งนี้แม้ว่า บจก.ประสิทธิชัยอุบล (โซลาร์ไรซ์) 2011 มีสิทธิประมูล แต่ก็ไม่ปรากฏว่าได้เข้ามาประมูลแต่อย่างใด


6.การระบายข้าวของรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้นำปัจจัยเรื่องราคาที่จะจำหน่ายได้มาเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะหากคำนึงถึงแต่เรื่องราคาที่จะได้รับเพียงอย่างเดียว ก็จะต้องกำหนดราคาขายข้าวที่จะประมูลไม่ต่ำกว่าราคาต้นทุนที่รับจำนำ คือ ข้าวขาว ประมาณตันละ 22,000 – 23,000 บาท ข้าวหอมมะลิ ประมาณตันละ 29,000 – 30,000 บาท แต่ได้คำนึงถึงการลดความเสียหายจากภาระงบประมาณที่ต้องจ่ายเป็นค่าเก็บรักษา ค่าดอกเบี้ย ค่ารมยา ผลกระทบต่อสุขอนามัยต่อมนุษย์และสัตว์ และสตอกข้าวที่กดราคาข้าวในตลาดอันมีผลกระทบถึงราคาข้าวที่ชาวนาจะได้รับด้วย และ 7. การดำเนินการระบายข้าวของรัฐบาลชุดนี้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ หากผู้กล่าวหามีหลักฐานว่าเป็นไปโดยมิชอบก็ควรที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ไม่ควรหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างลอย ๆ คลุม ๆ เครือ ๆ โดยไม่มีหลักฐานเพื่อหวังผลซ่อนเร้นบางประการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ