ทำเนียบรัฐบาล 30ต.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์( ศตส.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการ ศตส. พร้อมด้วยพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิ ด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิต รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง(กอร.รส.) นางสาวตรีดาว อภัยวงศ์โฆษกกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง รักษาราชแทนผู้บัญชาการสำนักยุทธศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม ร่วมแถลงผลการประชุม
โดยนายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ที่ประชุมประเมินผลการปฏิบัติการดูแลความเรียบร้อยประชาชนที่เข้าถวายสักการะ เบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันแรกหลังได้ยกเลิกบัตรคิว ว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งประชาชนสามารถถวายสักการะพระบรมศพได้ถึง 29,000 คน ยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกคนห่วงใยประชาชนทั้งด้านสุขภาพ และความปลอดภัย ซึ่งจะพยายามจัดลำดับให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพให้มากที่สุด
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ ระบุว่า ได้แบ่งโซนพื้นที่สนามหลวง โดยพื้นที่ที่ 5 และ 6 ตรงข้ามพระบรมมหาราชวังจะเป็นโซนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 70 คนที่รอเข้าถวายบังคับพระบรมศพ ขณะที่โซนที่ 4 จะเป็นศูนย์ของกรุงเทพมหานตร ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการจัดระเบียบการใช้พื้นที่สนามหลวง ทั้งห้องสุขา บริการการแพทย์ รวมถึงติดต่อใช้พื้นที่สนามหลวง ซึ่ง กทม. ขอความร่วมมือหากหน่วยงานใดต้องการใช้พื้นที่สนามหลวงให้แจ้ง กทม. หมายเลข 1899 หรือสายด่วน กทม 1555 โดยในแต่ละวันเจ้าหน้าที่จะหยุดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพไว้ที่ 30,000 คน หากเกินจำนวนนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบและเตรียมตัวมาในวันถัดไป นอกจากนี้ ยังได้จัดคิวพิเศษให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุ โดยมีลูกเสือชาวบ้านดูแลและอำนวยความสะดวก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเปิดใช้สนามหลวงในเวลา 04.00 -21.00 น. ประชาชนที่ตกค้างสามารถไปพักค้างแรมตามจุดของ กทม. ที่จัดเตรียมไว้ที่อาคารกีฬาเวศน์ 1 บ้านอุ่นใจ และสนามม้านางเลิ้ง โดยจะมีรถบริการรับส่งไปยังท้องสนามหลวงตามที่ประชาชนต้องการ
ด้าน พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง รักษาราชแทนผู้บัญชาการสำนักยุทธศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เพิ่มกำลังตำรวจภูธรภาค 1-7 เสริมกำลังตำรวจนครบาล พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบสนามหลวง เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม และดูแลความเรียบร้อย นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังได้ติดตามเว็บหมิ่นสถาบัน รวมถึงข้อความที่ไม่เหมาะสมในโซเซียลมีเดียมีมากถึง 800 เรื่อง โดยจะมีการดำเนินการตามกฎหมายทั้งในและต่างประเทศ
ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่เดินทางมายังพื้นที่สนามหลวง ซึ่งอาจไม่ได้รับความสะดวก จึงขอความร่วมมือประชาชนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และทำประโยชน์ที่ดีต่อกัน เป็นจุดเริ่มต้นการจัดระเบียบสังคม และในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค. )พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการสถานบันเทิง และการท่องเที่ยวเพื่อ ทำความเข้าใจแนวทางการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยืนยันสามารถเปิดบริการได้แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ปิด
สำหรับการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมพระบรมมหาราชวังจะเปิดวันที่ 1 พ.ย. นี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้วางแผนร่วมกันไว้แล้ว ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวจะเข้าออก และไม่ปะปนกับประชาชนที่เข้าถวายบังคมพระบรมศพ โดยในวันพรุ่งนี้(31ต.ค.)จะสรุปตัวเลขนักท่องเที่ยวอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย