fbpx

ตั้ง คกก.สอบอัยการเบ่งทับ ตร. ภายใน 30 วัน

สำนักงานอัยการสูงสุด 11 ก.ค. – สำนักงานอัยการสูงสุด ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอัยการที่ปรากฎเสียงในคลิปวิดิโอ คล้ายกับคนเมาและเบ่งทับตำรวจที่ไม่พาเดินทางไปร้านลาบชื่อดังในชลบุรี ซึ่งอัยการคนดังกล่าว เคยมีพฤติการณ์ลักษณะคล้ายกันเมื่อปี 2558 ย้ำเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร


ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกฯ แถลงกรณีชายอ้างตัวเป็นอัยการเมากร่างสั่งตำรวจสายตรวจให้พาไปร้านลาบ แต่นายตำรวจไม่ปฏิบัติตามเพราะติดภารกิจลาดตระเวนดูแลประชาชน กระทั่งมีการเรียกตัวมาพูดคุยเพื่อเบ่งทับและมีการบันทึกคลิปเสียงเผยแพร่บนโลกออนไลน์  โดยสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับนายธนพล จูฑะเตมีย์ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดียาเสพติด 1 สำนักงานคดียาเสพติด  หลังพิจารณาคลิปเสียง, ข้อความในเฟซบุ๊ก รวมถึงพฤติกรรมในอดีต ทำให้น่าเชื่อว่าเป็นเสียงพูดของนายธนพล ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคนเมาสุรา เป็นคำพูดไม่เหมาะสม กระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร โดยกำหนดกรอบระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน

ส่วนกรณีเดือนเมษายนปี 2558 โลกออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปวิดิโอ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ โดยขณะนั้นมีการระบุว่าเป็นอัยการเมากร่างใส่ตำรวจที่ด่านตรวจวัดแอลกอฮอลล์ ท้องที่ สน.บึงกุ่ม กระทั่งมีการสอบสวนข้อเท็จจริง และพบว่าคือนายธนพล ซึ่งประชุมคณะกรรมการอัยการมีมติให้ย้ายนายธนพลจากสำนักงานอัยการคดียาเสพติด ไปประจำสำนักงานคดีแพ่ง เป็นการชั่วคราว กระทั่งสอบสวนวินัยแล้วเสร็จ จึงมีมติลงโทษทางวินัยไม่เลื่อนตำแหน่ง (ตกคิว) 1 ปี เนื่องจากความผิดไม่ใช่เรื่องการทุจริตที่มีบทลงโทษร้ายแรงในการแต่งตั้งโยกย้ายช่วงเดือนกันยายน 2559 นายธนพลกลับมานั่งตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคดียาเสพติด และเลื่อนเป็นอัยการพิเศษ ฝ่ายสำนักงานคดียาเสพติด 1 ในเวลาต่อมา  


สำหรับการกระทำผิดของข้าราชการอัยการในลักษณะดังกล่าว มีบทบัญญัติชัดเจนใน พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 ตามมาตรา 68 คือ  “ข้าราชการอัยการต้องไม่ประพฤติตนเป็นคนเสเพล มีหนี้สินรุงรัง เสพของมึนเมา จนไม่สามารถครองสติได้ เล่นการพนันเป็นอาจิณ กระทำความผิดอาญา หรือกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว หรือ กระทำการอื่นใด อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ราชการ”

ซึ่งหากกระทำผิดตามข้อใดข้อหนึ่งตามมาตรา 68 จะต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากผลออกมาว่า “ผิดวินัยไม่ร้ายแรง” สำนักงานอัยการจะดำเนินการเอาผิดทางวินัย ตามมาตรา 88 ส่วนใหญ่จะลงโทษงดการเลื่อนตำแหน่ง หรือ ขั้นเงินเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี หรือลงโทษภาคทัณฑ์ตามที่กำหนดสมควร 

แต่หากผลการสอบสวนออกมาว่า “ผิดวินัยร้ายแรง” สำนักงานอัยการสูงสุด ก็อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเชิงลึกอีกครั้ง ว่าเป็นความผิดทางอาญา หรือ ประมาทหรือไม่ ซึ่งจะมีบทลงโทษลดหลั่นกันไป  ทั้งนี้ ตามมาตรา 84 ซึ่งกำหนดโทษไว้ 5 สถาน ไล่เรียงตั้งแต่ ไล่ออก, ปลดออก, ให้ออก, งดการเลื่อนตำแหน่ง หรือ งดเลื่อนชั้นหรือขั้นเงินเดือน และภาคทัณฑ์


ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการอ้างว่านายตำรวจ 2 นาย เดินทางไปขอโทษอัยการที่ไม่พาไปร้านลาบตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา โดยตามระเบียบวินัยของตำรวจชัดเจนว่าผู้ใต้บังคับบัญชาต้องฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา แต่ข้อสั่งการใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายตำรวจชั้นผู้น้อยไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามได้  ซึ่งเรื่องนี้ขอเวลาตรวจสอบ 7 วัน ว่ามีการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาจริงหรือไม่. -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้