ปตท.สผ.-เชฟรอนเฝ้ารอทีโออาร์ประมูลเอราวัณ-บงกช

กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – ข่าวดีเชฟรอน-ปตท.สผ.คงกำลังผลิตแหล่งเอราวัณ-บงกช เท่าเดิม 2,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จนถึงปี 2562-2563 หรือก่อนหมดอายุสัมปทาน 3 ปี รอกรมสรรพากรพิจารณาว่าจะให้นำค่าเสื่อมมาลดหย่อนภาษีเหลือ 3 ปีจากเดิม 5 ปีได้หรือไม่ ด้านนักวิชาการชี้ควรประมูล 2 แหล่งด้วยพีเอสซี แต่ผู้ผลิตระบุใช้สัมปทานดีที่สุด



นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ. ) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทกำลังรอการประกาศหลักเกณฑ์การประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุสัมปทานปี 2565-2566 คือ แหล่งเอราวัณ -บงกช อย่างเป็นทางการ ซึ่งในฐานะเป็นผู้ดำเนินการ หรือโอเปอเรเตอร์ แหล่งบงกช ดังนั้น จะยื่นประมูลแหล่งบงกชอย่างแน่นอน ส่วนแหล่งเอราวัณนั้น กำลังหารือกับพันธมิตร คือ เชฟรอน อย่างใกล้ชิดว่า จะร่วมดำเนินการกันอย่างไร หรือต่างฝ่ายต่างประมูล แม้ว่าทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติต้องการให้ ปตท.สผ.เข้าร่วมประมูลทั้ง 2 แหล่งก็ตาม และในส่วนตัวก็มองว่าหากภาครัฐจะเปิดประมูลด้วยระบบสัมปทานนั้น จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อการผลิตและทำให้มีความมั่นคงด้านพลังงาน ส่วนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมในแหล่งบงกชที่จะหมดสัมปทานนั้น ทาง ปตท.สผ.กำลังรอฟังระเบียบจากภาครัฐและศึกษาระเบียบการรื้อถอนว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร


นายสมพร กล่าวด้วยว่า สำหรับแหล่งผลิตปิโตรเลียมสิริกิติ์ หรือ S1 ที่หยุดผลิตตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2560 ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากติดปัญหาการใช้พื้นที่ของ ส.ป.ก.นั้น ปัจจุบัน ปตท.สผ.ได้กลับมาผลิตในแหล่ง S1ตามปกติแล้วตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศใช้มาตรา 44  เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ให้ยกเว้นกรณีการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม การวางกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า และการทำเหมืองแร่สามารถใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ได้ 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ปตท.สผ.เป็นโอเปอเรเตอร์แหล่งบงกชมีกำลังการผลิตก๊าซฯ 840 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  ส่วนแหล่งเชฟรอนฯ เป็นโอเปอเรเตอร์แหล่งเอราวัณมีกำลังการผลิตก๊าซฯ  1,240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  


นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า  บริษัทขอดูหลักการทีโออาร์ที่กระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่าจะประกาศออกมาได้ในเดือนสิงหาคมนี้ ว่ามีรูปแบบอย่างไร จึงขอตอบว่าจะประมูลอย่างไร ซึ่งปัจจุบันนี้บริษัทยังคงผลิตก๊าซฯ ตามสัญญา โดยความตั้งใจของเชฟรอนนั้น เมื่ออยู่เมืองไทยลงทุนมายาวนาน 50 ปีแล้ว ก็มีความคาดหวังจะลงทุนต่อยาวนานอีกไม่ต่ำกว่า 50ปี 

นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ ผู้อำนวยการกองแผนงานเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ กำลังหาทางที่จะยืดอายุการผลิตของแหล่งเอราวัณ-บงกชให้รักษาระดับการผลิตอัตราปัจจุบันให้นานที่สุด จากปกติแล้วช่วงก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน 5 ปี ทางผู้ผลิตจะไม่ลงทุนเพิ่มจนทำให้กำลังผลิตลดลง และกระทบต่อความมั่นคงต่อการผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจากการเจรจาทั้ง 2 รายจะคงกำลังผลิตนานถึงปี 2562-2563 ส่วนในช่วง 3 ปีก่อนที่จะหมดอายุสัมปทาน ทางผู้ผลิตก็รอดูกลไกว่าภาครัฐจะมีแนวทางร่วมยืดอายุการผลิตอย่างไร

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า กำลังหารือร่วมกับกรมสรรพากรว่าจะหาแนวทางร่วมกันในการยืดอายุแหล่งผลิตได้อย่างไร เช่น ปกติแล้วทางเอกชนจะสามารถนำค่าใช้จ่าย นำค่าเสื่อมจากการลงทุนหลุมผลิตไปหักค่าใช้จ่ายภายใน 5 ปี แต่เมื่ออายุสัมปทานก่อนสิ้นสุดสัญญา เหลือ เพียง 3 ปี จะลดระยะเวลา หรือนำช่วงเวลาที่เหลือไปหักค่าใช้จ่ายกับแหล่งผลิตแหล่งอื่นได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นับว่ามีข่าวดีที่เชฟรอนยืนยันจะผลิตอัตราปัจจุบันจนถึงปี 2562 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปตท.สผ.ยืนยันกำลังผลิตเท่าเดิมไปจนถึงปี 2563 

นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ในการเปิดประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ ซึ่งเป็นแหล่งเก่ามีข้อมูลเดิมที่ชัดเจนอยู่แล้ว ภาครัฐจึงควรจะใช้วิธีการประมูลในระดับแบ่งปันผลผลิต หรือพีเอสซี โดยกำหนดผลตอบแทนภาครัฐและจูงใจการลงทุนเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน  และควรเร่งดำเนินการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบ 21 เพื่อให้เกิดการใช้ก๊าซฯ จากแหล่งในประเทศมากที่สุด เพราะรัฐยังได้ประโยชน์จากภาษี ค่าภาคหลวงการลงทุนต่อเนื่องนับเป็นแสนล้านบาทต่อปี แต่หากไม่พึ่งพาในประเทศมีแต่การนำเข้าแอลเอ็นจี ไทยต้องเสียดุลการค้า ประโยชน์จะตกกับประเทศผู้ผลิตเท่านั้น  ขณะเดียวกันแผนการผลิตไฟฟ้าของประเทศระยะยาว หรือพีดีพีที่กระทรวงพลังงานกำลังปรับปรุงก็ควรเน้นเรื่องการเพิ่มพลังงานทดแทนจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 40 เพราะต้นทุนต่ำลง เช่น โซลาร์เซลล์ ส่วนร้อยละ 60 ที่เหลือก็ต้องกระจายเชื้อเพลิงทั้งถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ  และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า  สิ่งที่ภาคเอกชนคำนึงถึงมากที่สุด คือ เสถียรภาพความมั่นคงทางพลังงาน ต้นทุนพลังงานต้องมีความเหมาะสม โดยแม้ 2-3 ปีที่ผ่านมาปริมาณการใช้ไฟฟ้าไม่ได้สูงขึ้นมาก สืบเนื่องมาจากการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความหลากหลายของเชื้อเพลิงที่มาผลิตไฟฟ้า เพื่อทำให้มีความมั่นคงทางพลังงานมากขึ้น ต้นทุนราคาพลังงานต้องทำให้ยอมรับได้ และในอนาคตภาคัฐต้องเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้น ที่จะเกิดจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV รวมทั้ง โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการระบบราง ซึ่งต้องวางแผนรองรับให้เพียงพอ

นายคุรุจิต นาครทรรพ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในการประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ และรอบ 21 ที่ล่าช้า 4-5 ปี เพราะมีความเข้าใจในข้อมูลที่คลาดเคลื่อน รัฐบาลต้องรับฟังข้อมูลข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งนี้ การประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณนั้น คงไม่สามารถระบุเรื่องวงเงินได้ แต่การประมูลจะต้องมีการกำหนดเรื่องข้อเสนอกำลังผลิตขั้นต่ำ การวางแผนเพิ่มกำลังผลิตในอนาคตได้เท่าใด เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน ขณะเดียวกันจะต้องมีการแข่งขันเรื่องเงินให้เปล่าเบื้องต้นแก่ภาครัฐอีกด้วย โดยภาพรวมตั้งดูทั้งเรื่องความมั่นคงทางพลังงานและผลตอบแทนแก่รัฐ  

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเสวนา “หลุมดำ พลังงานไทย” โดยคณะนักศึกษาหลักสูตรด้านวิทยาการพลังงานสำหรับนักบริหารรุ่นใหม่หรือ วพม.4 ซึ่งมีพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ประเทศไทยกำลังพัฒนาปรับโครงสร้างประเทศ เพื่อความยั่งยืน ซึ่งในส่วนของพลังงานนับเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สนับสนุนทุกด้าน และที่สำคัญที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดและให้ข้อมูลที่ผิดด้านพลังงาน ทุกฝ่ายต้องร่วมสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเดินหน้าผลิตพลังงาน ผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการใช้และเกิดความมั่นคง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย