ปตท.สผ.-เชฟรอนเฝ้ารอทีโออาร์ประมูลเอราวัณ-บงกช

กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – ข่าวดีเชฟรอน-ปตท.สผ.คงกำลังผลิตแหล่งเอราวัณ-บงกช เท่าเดิม 2,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จนถึงปี 2562-2563 หรือก่อนหมดอายุสัมปทาน 3 ปี รอกรมสรรพากรพิจารณาว่าจะให้นำค่าเสื่อมมาลดหย่อนภาษีเหลือ 3 ปีจากเดิม 5 ปีได้หรือไม่ ด้านนักวิชาการชี้ควรประมูล 2 แหล่งด้วยพีเอสซี แต่ผู้ผลิตระบุใช้สัมปทานดีที่สุด



นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ. ) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทกำลังรอการประกาศหลักเกณฑ์การประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุสัมปทานปี 2565-2566 คือ แหล่งเอราวัณ -บงกช อย่างเป็นทางการ ซึ่งในฐานะเป็นผู้ดำเนินการ หรือโอเปอเรเตอร์ แหล่งบงกช ดังนั้น จะยื่นประมูลแหล่งบงกชอย่างแน่นอน ส่วนแหล่งเอราวัณนั้น กำลังหารือกับพันธมิตร คือ เชฟรอน อย่างใกล้ชิดว่า จะร่วมดำเนินการกันอย่างไร หรือต่างฝ่ายต่างประมูล แม้ว่าทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติต้องการให้ ปตท.สผ.เข้าร่วมประมูลทั้ง 2 แหล่งก็ตาม และในส่วนตัวก็มองว่าหากภาครัฐจะเปิดประมูลด้วยระบบสัมปทานนั้น จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อการผลิตและทำให้มีความมั่นคงด้านพลังงาน ส่วนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมในแหล่งบงกชที่จะหมดสัมปทานนั้น ทาง ปตท.สผ.กำลังรอฟังระเบียบจากภาครัฐและศึกษาระเบียบการรื้อถอนว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร


นายสมพร กล่าวด้วยว่า สำหรับแหล่งผลิตปิโตรเลียมสิริกิติ์ หรือ S1 ที่หยุดผลิตตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2560 ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากติดปัญหาการใช้พื้นที่ของ ส.ป.ก.นั้น ปัจจุบัน ปตท.สผ.ได้กลับมาผลิตในแหล่ง S1ตามปกติแล้วตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศใช้มาตรา 44  เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ให้ยกเว้นกรณีการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม การวางกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า และการทำเหมืองแร่สามารถใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ได้ 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ปตท.สผ.เป็นโอเปอเรเตอร์แหล่งบงกชมีกำลังการผลิตก๊าซฯ 840 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  ส่วนแหล่งเชฟรอนฯ เป็นโอเปอเรเตอร์แหล่งเอราวัณมีกำลังการผลิตก๊าซฯ  1,240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  


นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า  บริษัทขอดูหลักการทีโออาร์ที่กระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่าจะประกาศออกมาได้ในเดือนสิงหาคมนี้ ว่ามีรูปแบบอย่างไร จึงขอตอบว่าจะประมูลอย่างไร ซึ่งปัจจุบันนี้บริษัทยังคงผลิตก๊าซฯ ตามสัญญา โดยความตั้งใจของเชฟรอนนั้น เมื่ออยู่เมืองไทยลงทุนมายาวนาน 50 ปีแล้ว ก็มีความคาดหวังจะลงทุนต่อยาวนานอีกไม่ต่ำกว่า 50ปี 

นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ ผู้อำนวยการกองแผนงานเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ กำลังหาทางที่จะยืดอายุการผลิตของแหล่งเอราวัณ-บงกชให้รักษาระดับการผลิตอัตราปัจจุบันให้นานที่สุด จากปกติแล้วช่วงก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน 5 ปี ทางผู้ผลิตจะไม่ลงทุนเพิ่มจนทำให้กำลังผลิตลดลง และกระทบต่อความมั่นคงต่อการผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจากการเจรจาทั้ง 2 รายจะคงกำลังผลิตนานถึงปี 2562-2563 ส่วนในช่วง 3 ปีก่อนที่จะหมดอายุสัมปทาน ทางผู้ผลิตก็รอดูกลไกว่าภาครัฐจะมีแนวทางร่วมยืดอายุการผลิตอย่างไร

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า กำลังหารือร่วมกับกรมสรรพากรว่าจะหาแนวทางร่วมกันในการยืดอายุแหล่งผลิตได้อย่างไร เช่น ปกติแล้วทางเอกชนจะสามารถนำค่าใช้จ่าย นำค่าเสื่อมจากการลงทุนหลุมผลิตไปหักค่าใช้จ่ายภายใน 5 ปี แต่เมื่ออายุสัมปทานก่อนสิ้นสุดสัญญา เหลือ เพียง 3 ปี จะลดระยะเวลา หรือนำช่วงเวลาที่เหลือไปหักค่าใช้จ่ายกับแหล่งผลิตแหล่งอื่นได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นับว่ามีข่าวดีที่เชฟรอนยืนยันจะผลิตอัตราปัจจุบันจนถึงปี 2562 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปตท.สผ.ยืนยันกำลังผลิตเท่าเดิมไปจนถึงปี 2563 

นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ในการเปิดประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ ซึ่งเป็นแหล่งเก่ามีข้อมูลเดิมที่ชัดเจนอยู่แล้ว ภาครัฐจึงควรจะใช้วิธีการประมูลในระดับแบ่งปันผลผลิต หรือพีเอสซี โดยกำหนดผลตอบแทนภาครัฐและจูงใจการลงทุนเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน  และควรเร่งดำเนินการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบ 21 เพื่อให้เกิดการใช้ก๊าซฯ จากแหล่งในประเทศมากที่สุด เพราะรัฐยังได้ประโยชน์จากภาษี ค่าภาคหลวงการลงทุนต่อเนื่องนับเป็นแสนล้านบาทต่อปี แต่หากไม่พึ่งพาในประเทศมีแต่การนำเข้าแอลเอ็นจี ไทยต้องเสียดุลการค้า ประโยชน์จะตกกับประเทศผู้ผลิตเท่านั้น  ขณะเดียวกันแผนการผลิตไฟฟ้าของประเทศระยะยาว หรือพีดีพีที่กระทรวงพลังงานกำลังปรับปรุงก็ควรเน้นเรื่องการเพิ่มพลังงานทดแทนจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 40 เพราะต้นทุนต่ำลง เช่น โซลาร์เซลล์ ส่วนร้อยละ 60 ที่เหลือก็ต้องกระจายเชื้อเพลิงทั้งถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ  และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า  สิ่งที่ภาคเอกชนคำนึงถึงมากที่สุด คือ เสถียรภาพความมั่นคงทางพลังงาน ต้นทุนพลังงานต้องมีความเหมาะสม โดยแม้ 2-3 ปีที่ผ่านมาปริมาณการใช้ไฟฟ้าไม่ได้สูงขึ้นมาก สืบเนื่องมาจากการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีความหลากหลายของเชื้อเพลิงที่มาผลิตไฟฟ้า เพื่อทำให้มีความมั่นคงทางพลังงานมากขึ้น ต้นทุนราคาพลังงานต้องทำให้ยอมรับได้ และในอนาคตภาคัฐต้องเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้น ที่จะเกิดจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV รวมทั้ง โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการระบบราง ซึ่งต้องวางแผนรองรับให้เพียงพอ

นายคุรุจิต นาครทรรพ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในการประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ และรอบ 21 ที่ล่าช้า 4-5 ปี เพราะมีความเข้าใจในข้อมูลที่คลาดเคลื่อน รัฐบาลต้องรับฟังข้อมูลข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งนี้ การประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณนั้น คงไม่สามารถระบุเรื่องวงเงินได้ แต่การประมูลจะต้องมีการกำหนดเรื่องข้อเสนอกำลังผลิตขั้นต่ำ การวางแผนเพิ่มกำลังผลิตในอนาคตได้เท่าใด เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน ขณะเดียวกันจะต้องมีการแข่งขันเรื่องเงินให้เปล่าเบื้องต้นแก่ภาครัฐอีกด้วย โดยภาพรวมตั้งดูทั้งเรื่องความมั่นคงทางพลังงานและผลตอบแทนแก่รัฐ  

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเสวนา “หลุมดำ พลังงานไทย” โดยคณะนักศึกษาหลักสูตรด้านวิทยาการพลังงานสำหรับนักบริหารรุ่นใหม่หรือ วพม.4 ซึ่งมีพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ประเทศไทยกำลังพัฒนาปรับโครงสร้างประเทศ เพื่อความยั่งยืน ซึ่งในส่วนของพลังงานนับเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สนับสนุนทุกด้าน และที่สำคัญที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดและให้ข้อมูลที่ผิดด้านพลังงาน ทุกฝ่ายต้องร่วมสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเดินหน้าผลิตพลังงาน ผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการใช้และเกิดความมั่นคง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย

เคลียร์ BM21 หมู่บ้านกระสุนตก 5 ลูก อ.น้ำยืน อุบลฯ

อุบลราชานี 1 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ใน 8 หมู่บ้าน 24 จุด พบกระสุน BM21 ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และพร้อมทำงาน โดยในช่วงเช้าทำลาย 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณริมถนนสายน้ำยืน นาจะหลวย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนขุดดินด้านบนแล้วหย่อนระเบิด C4 ลงไปในหลุมที่หัวกระสุน BM21 ตกแต่ไม่ระเบิด จากนั้นจึงจุดชนวนทำลายระเบิด ใช้เวลาเพียง 20 นาที หัวกระสุนถูกทำลายโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ […]

ทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่จุดกัมพูชายิงถล่ม

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – วันนี้คณะทูตานุทูตและทูตทหาร รวม 23 ประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ถูกกัมพูชาโจมตี และศูนย์พักพิง การลงพื้นที่ในวันนี้ทางประเทศไทยต้องการให้คณะทูตทั้ง 23 ประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงและนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ จุดแรกคือปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM21 โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปให้คณะได้รับฟังถึงเหตุการณ์วันแรกที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียจากที่เกิดขึ้นต่อคณะทูตานุทูตผ่านล่าม พร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นคณะทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ ต่อไปยังจุดกระสุนตกใส่พลเรือน ที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ส่งผลทำให้อาคาร รพ.สต. เสียหาย ที่นี่ ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ประจำกว่า 30 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางจังหวัดได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง โดยนางเข็มจิรา จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.บ้านชำเม็ง บอกว่าถ้าวันนั้น หากยังไม่มีการอพยพ […]

ชาวบ้านผวาโดรนปริศนา บินว่อนพื้นที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 1 ส.ค. – ชาวบ้านหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ผวาพบโดรนปริศนาบินว่อนหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ หวั่นเป็นของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบินสอดแนม ชาวบ้านหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ต่างหวาดผวา หลังยังพบโดรนปริศนาจำนวนหลายลำบินว่อนในหลายอำเภอ เช่น อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ละหานทราย อ.ประโคนชัย และ อ.บ้านกรวด แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ถึงที่มาที่ไปของโดรนว่ามาจากไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นของคนไทยก็จะนำตัวมาสอบถาม จุดประสงค์ในการบิน และอาจถูกดำเนินคดี เนื่องจาก ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้ออกประกาศห้ามอากาศไร้คนขับหรือโดรนบิน ในช่วงนี้เด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย แต่หากเป็นโดรนฝ่ายกัมพูชาที่ลักลอบบินเข้ามาสอดแนมหรือจับพิกัดเป้าหมายสำคัญในไทย เจ้าหน้าที่จะเร่งหามาตรการป้องกันสกัดกั้น เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติ สำหรับภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย หลังเจรจาหยุดยิง ขณะนี้ยังไม่พบการปะทะกันขึ้น แต่โรงเรียนในพื้นที่แนวชายแดนทั้ง อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย รวม 85 แห่ง ยังคงปิดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่จังหวัดยังไม่มีประกาศให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้านพักได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ประกอบกับต้องเคลียร์พื้นที่ก่อนเพราะมีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่มากกว่า 240 ลูก.-สำนักข่าวไทย