กรมการค้าภายในชี้แจงยกเลิกภาษีนำเข้าข้าวสาลีไม่ได้

นนทบุรี 4 ก.ค. – อธิบดีกรมการค้าภายในชี้แจงข้อเรียกร้องยกเลิกมาตรการภาษีนำเข้าข้าวสาลี ไม่สามารถทำได้ เหตุผิดเงื่อนไข WTO


นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่มีประเด็นข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการภาษีนำเข้าข้าวสาลีร้อยละ 0 ในการนำมาเป็นอาหารสัตว์ ส่วนการนำเข้ามาเป็นอาหารมนุษย์ก็เก็บภาษีที่ร้อยละ 27 เช่นเดิม และกรณีที่ยังมีคนต้องการนำเข้าเป็นอาหารสัตว์ก็ต้องจ่ายภาษีร้อยละ 35 เท่ากับประเทศฟิลิปปินส์ และให้ความเห็นว่าการยกเลิกมาตรการภาษีดังกล่าวไม่ผิดเงื่อนไของค์การการค้าโลก (WTO) สามารถทำได้ เพราะเงื่อนไขดังกล่าวมีข้อยกเว้นว่าหากการนำเข้าทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยนั้น กระทรวงพาณิชย์ขอชี้แจงว่าตั้งแต่ ปี 2538 ไทยผูกพันภาษีนำเข้าสินค้าข้าวสาลี (พิกัด 1001) ภายใต้ WTO ไว้ที่ร้อยละ 27 ต่อมาปี 2550 กระทรวงการคลังปฏิรูปภาษีศุลกากรให้เหลือร้อยละ 0 เนื่องจากสินค้าข้าวสาลีเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร (ใช้ผลิตบะหมี่สำเร็จรูป และขนมปัง ขนมเค้ก เป็นหลัก) และไม่มีการเพาะปลูกในประเทศ จึงจำเป็นต้องนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ โดยขณะนั้นยังไม่มีการแยกพิกัดข้าวสาลีที่เป็นอาหารคนและอาหารสัตว์ จึงเป็นการลดภาษีวัตถุดิบทั้งหมวด

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบทดแทน ปี 2560/2561 โดยให้ปรับปรุงมาตรการบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และให้มีการศึกษาเพื่อพิจารณาผลดีผลเสียของการขึ้นภาษีนำเข้าให้รอบด้าน ภายใต้พันธกรณี WTO ไทยไม่สามารถระงับการนำเข้าข้าวสาลีได้ แต่สามารถขึ้นภาษีได้ไม่เกินร้อยละ 27 ตามที่ผูกพันไว้ แต่สำหรับคู่ค้าที่มี FTA เช่น ออสเตรเลีย ไทยไม่สามารถปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าข้าวสาลีได้ยกเว้นแต่ว่าต้องมีการเจรจาขอแก้ไขข้อผูกพันและอาจต้องมีการเปิดตลาดสินค้าอื่นเพิ่มให้คู่เจรจาเป็นการแลกเปลี่ยน หรือคู่เจรจาขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยเป็นการตอบแทน


อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการกำกับดูแลสินค้าข้าวสาลี โดยออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เพื่อให้ผู้นำเข้าข้าวสาลีแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการนำเข้า ราคา แผนการนำเข้า ปริมาณการใช้ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ และสถานที่เก็บ รวมทั้งกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศอัตราส่วน 1 : 3 ด้วย ตามที่เคยชี้แจงแล้ว สำหรับปัจจุบันราคาที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อ (ที่ความชื้น14.5%) อยู่ที่ 8.15-8.65 บาท/กก. โดยกรมประสานให้โรงงานเปิดช่องรับซื้อตรงจากเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ์มาตลอด ขณะนี้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2559/2560 ออกสู่ตลาดหมดแล้ว และจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลผลิต 2560/2561 โดยผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดประมาณปลายเดือนกรกฎาคม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง