เมืองทองธานี 3 ก.ค.- นายกรัฐมนตรี ขอทุกฝ่ายสนใจการขับเคลื่อนประเทศมากกว่านายกฯ จะลงเลือกตั้งหรือไม่ พร้อมขอให้เข้าใจจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่างด้าว แต่ยืนยันไม่ให้แรงงานขาดแคลนแน่นอน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดการประชุม “ขับเคลื่อนแผนฯ 12 สู่อนาคตประเทศไทย” ในการประชุมประจำปี 2560 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “สานพลังทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการพัฒนาสู่อนาคตประเทศไทย” โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าระยะที่ 2 ตามโรดแมปที่วางไว้ และเตรียมส่งงานต่อไปยังรัฐบาลหน้า
“อยากให้ทุกคนสนใจการขับเคลื่อนของประเทศ ไม่ใช่สนใจเฉพาะบางเรื่อง ซึ่งขณะนี้สื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ให้ความสำคัญในประเด็นว่า ผมจะลงเลือกตั้งหรือไม่ แต่ผมจะไม่ตอบ เพราะถือเป็นเรื่องการตัดสินใจของผม และถ้าใครอยากจะวิพากษ์วิจารณ์ก็พูดไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนงานหลายด้าน พร้อมตั้งคณะทำงานด้านต่างๆ เช่น คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เพื่อแก้ปัญหา รวมทั้งการใช้อำนาจมาตรา 44ปลดล็อกปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ซึ่งทุกคนต้องคิดว่า หากอนาคตไม่มีมาตรา 44 แล้วจะทำอย่างไร ดังนั้น การทำสิ่งใดในอนาคต จึงต้องทำอย่างรอบคอบ วันนี้ที่ใช้อำนาจมาตรา 44 เพราะเร่งดำเนินการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว เพื่อดูแลประชาชนไม่ให้เดือดร้อน การทำงานต้องมีกฎหมายหลักบังคับใช้ ซึ่งบางกฎหมาย หากไม่ได้ออกในรัฐบาลนี้ อาจจะไม่สามารถแก้ไขกฎหมายได้อีกเลย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ว่า ที่ไทยต้องดำเนินการเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่มีความเข้มงวดและถูกเพ่งเล็งเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นข้อตกลงกับ 4 ประเทศในอาเซียน โดยหลังจากนี้จะต้องขึ้นบัญชีแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ชายแดนเท่านั้น ซึ่งคนเหล่านี้ยังไม่ได้พิสูจน์สัญชาติทั้งหมด และการพิสูจน์สัญชาติจะต้องมาจากต้นทาง
“รัฐบาลยืนยันว่าดูแลคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการด้วย เพราะหากเกิดปัญหาไม่สามารถทำธุรกิจต่อจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ผมไม่อยากให้ใครเดือดร้อน แต่ต้องเข้าใจถึงความจำเป็นในการใช้กฎหมาย ส่วนข้อกังวลอัตราโทษปรับที่สูง ต้องพิจารณาความเหมาะสม ขออย่าออกมาเคลื่อนไหว รัฐบาลแก้ไขให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนภายใน 120 วันแล้ว โดยจะเป็นการแก้ปัญหาทั้งส่วนของแรงงานต่างด้าวเก่า และแรงงานต่างด้าวใหม่ที่จะเข้ามาทำงาน รัฐบาลจะไม่ให้ขาดแคลนแรงงานอย่างแน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย