กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – คปภ.เห็นชอบแบบกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี 60 เพิ่มวงเงินความคุ้มครองทั้ง 7 ภัย ปรับเขตรับประกันครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้อีก 3 จังหวัด แก้คำจำกัดความวันที่เกิดความเสียหาย เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดกรณีประกาศภัยหลายครั้ง
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 กำหนดเป้าหมายขั้นต่ำ 25 ล้านไร่ นั้น เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลและเกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวนาปีได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันภัยข้าวนาปี ในฐานะนายทะเบียนประกันภัยจึงเห็นชอบแบบกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีตามรูปแบบและหลักเกณฑ์การรับประกันภัยโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 อัตราค่าเบี้ยประกันภัยจะลดจากเดิม 100 บาทต่อไร่ เป็น 90 บาทต่อไร่ หรือ 97.37 บาทต่อไร่ (รวมอากรแสตมป์และภาษี) เท่ากันทุกพื้นที่ รัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย 61.37 บาทต่อไร่ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยส่วนที่เหลือ 36 บาทต่อไร่ ให้กับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อของ ธ.ก.ส. เพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2560
สำหรับความคุ้มครองตามตารางกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 เพิ่มวงเงินคุ้มครองทั้ง 7 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ภัยลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ภัยลูกเห็บ ภัยจากไฟไหม้ ซึ่งจะได้รับวงเงินคุ้มครอง 1,260 บาทต่อไร่ จากเดิมคุ้มครอง 1,111 บาทต่อไร่ และภัยจากศัตรูพืชหรือโรคระบาด เพิ่มความคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่ จากเดิมคุ้มครอง 555 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรสามารถซื้อได้ตั้งแต่ก่อนเพาะปลูกจนถึงวันสุดท้ายของการขาย แต่ไม่เกินวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ของทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ไม่เกินวันที่ 15 ธันวาคม 2560 นอกจากนี้ คปภ.ยังจะเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรณีมีการประกาศภัยเพื่อให้ คปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธ.ก.ส. และสมาคมประกันวินาศภัยไทยรับทราบข้อมูลอย่างรวดเร็วและทันท่วงที ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดในการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่เกษตรกร
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีการผลิต 2560 ได้ปรับเขตการรับประกันภัยให้ครอบคุลมพื้นที่ภาคใต้อีก 3 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ให้สอดคล้องกับการกำหนดเขตภาคใต้ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปี 2560 นอกจากนี้ สิ่งสำคัญยังปรับแก้ไขคำจำกัดความวันที่เกิดความเสียหาย เพื่อให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวนาปีได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันภัยข้าวนาปี สามารถรองรับกรณีมีการประกาศภัยหลายครั้ง ซึ่งจะพิจารณาจากข้อมูลการประกาศภัยพิบัติที่แท้จริงประกอบการประเมินความเสียหายของพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติ เพื่อพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวนาปีอย่างเป็นธรรมต่อไป .-สำนักข่าวไทย