อนุบอร์ดบีโออนุมัติ พีทีทีจีซีลงทุนลุยอีอีซีกว่า 20,000 ล้าน

กรุงเทพฯ 28 มิ.ย.- บีโอไอให้ส่งเสริมการลงทุน 2 โครงการใหญ่ ในพื้นที่อีอีซี เป็นการร่วมทุนระหว่าง บมจ. พีทีที โกลบอล  เคมิคอล(พีทีทีจีซี) กับบริษัทใหญ่ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ลงทุนรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ผลิตผลิตภัณฑ์เคมีชนิดพิเศษครั้งแรกในประเทศไทย 


นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน  (บีโอไอ) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการของบีโอไอ ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการของบริษัทในเครือ    พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทได้ร่วมทุนกับ บริษัทคูราเร จำกัด  (Kuraray Co.,LTD)  ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น และบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชัน (Sumitomo Corporation)  จำนวน 2 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท   เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เคมีชนิดพิเศษที่ยังไม่เคยมีการผลิตในประเทศไทยมาก่อน และจะช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีการใช้วัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศ มูลค่าปีละไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท  รวมถึงมีการส่งออกคิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาทต่อปี                

โครงการแรกเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ชนิดพิเศษ ประเภทยางเทอร์โมพลาสติกจากสไตรีน  ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 6 ต่อปี เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ  มีความยืดหยุ่น แต่แข็งแรง เหมาะในการนำไปขึ้นรูปชิ้นงานต่างๆ ขณะเดียวกันยังทนต่อสภาพอากาศและอุณหภูมิต่างๆ ได้ดีกว่ายางเทอร์โมพลาสติกจากสไตรีนที่ใช้กันทั่วไป  นอกจากนี้ยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยผ่านกระบวนการรีไซเคิล  จึงเป็นที่นิยมนำไปใช้สำหรับผลิตอุปกรณ์กีฬากลางแจ้ง เช่น กระดานโต้คลื่น  หรือชิ้นส่วนต่างๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ รวมถึงชิ้นส่วนเครื่องใช้ในครัวเรือน


โครงการที่สอง เป็นการผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่จะทำให้คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์เคมีชนิดอื่น      ดีขึ้น เช่น เมื่อนำไปผสมในหมึกพิมพ์ ทำให้มีคุณสมบัติทนความร้อน ทนน้ำ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม    

“การลงทุนของกลุ่มพีทีที โกลบอล เคมิคอล ครั้งนี้นับเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการผลิต และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ความต้องการในตลาดโลกกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว  จึงนับเป็นกิจการที่ก่อให้เกิดประโยชน์และเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในประเทศ” นางหิรัญญา กล่าว

ทั้ง 2 โครงการ ยังตั้งอยู่ในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลที่จะนำไปสู่การเดินหน้าตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0  รวมถึงการลงทุนในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของภาคเอกชนต่อการเข้าไปลงทุนในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าพัฒนาและการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดพื้นที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ดีที่สุด และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังนับเป็นโครงการนำร่องจะช่วยดึงดูดโครงการที่เกี่ยวเนื่องอื่นให้ตัดสินใจเข้าไปลงทุนในพื้นที่อีอีซีเพิ่มขึ้นในอนาคต -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย