คาดทีโออาร์บงกช-เอราวัณเสนอ ครม.สิงหาคมนี้

กรุงเทพฯ  26 มิ.ย. – กระทรวงพลังงานหารือนอร์เวย์ เร่งสร้างความรู้และความเข้าใจแอลเอ็นจี รองรับความต้องการนำเข้าสูงขึ้น พร้อมคาดทีโออาร์แหล่งบงกช-เอราวัณ เสนอ ครม.สิงหาคมนี้


พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงานสัมมนาความร่วมมือด้านแอลเอ็นจีระหว่างไทยและนอร์เวย์ โดยมีผู้บริหารกระทรวงพลังงาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้ารับฟัง  โดยการสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าความเข้าใจในธุรกิจแอลเอ็นจีและเทคโนโลยีทันสมัย เนื่องจากนอร์เวย์มีความสมบูรณ์ด้านทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ดังวนั้น จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ในการใช้แอลเอ็นจีรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสถานีแปรสภาพก๊าซธรรมชาติที่ถูกทำให้เหลวเป็นก๊าซธรรมชาติลอยน้ำ 

รมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า กระทรวงพลังงานกำหนดแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติหรือ GAS PLAN 2015 เพื่อบริหารจัดการทั้งด้านเกี่ยวกับความต้องการและจัดหาแอลเอ็นจีที่สำคัญกับไทยในอนาคตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยรัฐบาลกำหนดนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการนำเข้าและเปิดให้เอกชนที่สนใจเข้าสู่ระบบโครงข่ายด้านก๊าซมากขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขันเสรีกิจการก๊าซธรรมชาติก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของประเทศในอนาคต


ทั้งนี้ การสัมมนานอกจากจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในธุรกิจแอลเอ็นจีแล้ว ยังมีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านปิโตรเลียมนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศ เนื่องจากนอร์เวย์มีระบบการให้สิทธิและสำรวจปิโตรเลียม ทั้งระบบสัมปทานและแบ่งปันผลผลิต ซึ่งไทยก็มีการปรับปรุงให้มีสัญญาแบ่งปันผลผลิตและสัญญาจ้างบริการเพิ่มขึ้นนำมาใช้ร่วมกับระบบสัมปทานเดิม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและดำเนินงานกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเตรียมเปิดประมูลแหล่งสิ้นสุดสัมปทานก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย 2 แหล่ง ทั้งบงกชและเอราวัณ  คาดว่าจะเปิดให้สิทธิปิโตรเลียมรอบใหม่ปลายปีนี้

นอกจากนี้  รมว.พลังงาน กล่าวถึงกฎหมายลูกของ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2560 และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่ 7) 2560 โดยกฎหมายลูกที่เหลืออีก 2 ฉบับจะขอความเห็นชอบจาก ครม. หลังจากที่มีการเสนอไปแล้ว 4 ฉบับ โดย 2 ฉบับที่เหลือคาดว่าจะเสนอ ครม.เดือนกรกฎาคมนี้  ส่วนทีโออาร์เปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณและแหล่งบงกช คาดว่าจะสามารถเสนอให้ ครม.พิจารณาเดือนสิงหาคมนี้ก่อนเปิดประมูล และคาดว่าจะทราบผลภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน