“ซีพีเอฟ”เสียใจสุดซึ้ง พร้อมเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียเต็มที่

กทม.23 มิ.ย.-  “ซีพีเอฟ”ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับอุบัติเหตุ และพร้อมรับผิดชอบเยียวยาแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย 


 

จากอุบัติเหตุระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานแปรรูปเป็ดบางนา ถ.บางนา-ตราด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพในวันนี้(23 มิ.ย.)นั้น  นายปริโสทัต ปุณณภุม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในนามบริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต บริษัทฯ ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือและเยียวยาอย่างเต็มที่นอกเหนือจากความช่วยเหลือตามระเบียบของบริษัท หากครอบครัวใดมีบุตรหลานที่อยู่ระหว่างการศึกษา บริษัทฯจะให้การดูแลเรื่องทุนการศึกษาจนจบระดับปริญญาตรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เบื้องต้นบริษัทฯ ได้ติดต่อกับครอบครัวผู้เสียชีวิตเรียบร้อย พร้อมส่งศพให้ครอบครัว ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 


นายปริโสทัต กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ควบคุมที่ระบุชัดเจนว่า เป็นพื้นที่อันตราย ซึ่งจะต้องได้รับการอนุญาตจึงจะเข้าเยี่ยมชมได้ เป็นที่ทราบกันดีว่า บริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียดังกล่าวอาจมีแก๊สที่สามารถทำให้หมดสติ จึงมีความเป็นไปได้ว่าผู้เข้าเยี่ยมชมอาจประสบอุบัติเหตุพลัดตก พนักงานผู้นำชมได้ให้ความช่วยเหลือโดยดึงร่างผู้ตกบ่ออย่างสุดกำลัง พร้อมทั้งส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เป็นเหตุให้พนักงานด้านนอกที่ได้ยินเสียงอีก 3 คนวิ่งเข้าไปช่วย จนเกิดความสูญเสียทั้ง 5 คนอย่างไรก็ตาม ยังอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  บริษัทฯ ยืนยันว่าทุกพื้นที่ในโรงงานปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในโรงงาน และระบบบำบัดน้ำเสียอย่างเคร่งครัด ทั้งยังฝึกอบรมด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการความปลอดภัยจะมีขั้นตอน ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยเข้าประเมินความเสี่ยงของพื้นนที่ต่างๆภายในโรงงาน โดยพิจารณาความเสี่ยงต่อความปลอดภัย และสุขอาชีวอนามัย เมื่อได้พื้นที่เสี่ยงแล้วจะกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมซึ่งจะมีมาตรการกำกับดูแล เช่น ต้องขออนุญาตเข้าพื้นที่ โดยทุกพื้นที่จะมีการตรวจสอบเป็นประจำ แต่ยังเกิดอุบัติเหตุขึ้น ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของบริษัทฯ..-สำนำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย