ซ.อารีย์ 23 มิ.ย.-รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ เข้มความปลอดภัยใต้ ก่อนหมดเดือนรอมฎอนวันศุกร์นี้ ชี้บึ้ม รพ.พระมงกุฎจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก ต้องรอหลักฐานชี้ชัดอีกครั้ง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในช่วงก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฎอนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ได้มีการสั่งการให้กอ.รมน.ภาค 4 ติดตามสถานการณ์รวมถึงดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุร้าย
ส่วนกรณีที่คนร้ายบุกยิงนาย อาแว เตาะสาตู หรืออุสตาซดะห์รี อายุ 54 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หน้ามัสยิดภายในโรงเรียนมูลนิธิชุมชนอิสลาม บ้านปะแดลางา หมู่ที่ 5 ตำบลตะลุปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จะจุดไฟความรุนแรงให้บานปลายอีกหรือไม่นั้น รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ จึงไม่น่าจะใช่เงื่อนไขการสร้างความรุนแรง ซึ่งต้องไปตรวจสอบกันอีกครั้งว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบแนวทางสันติสุขที่รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงดำเนินการอยู่ซึ่งการหารือก็จะให้ทางฝ่ายที่หารือด้วยนั้นไปทำความเข้าใจกับเครือข่ายต่อไป
ส่วนการจับกุม นาย สะมาแอ ท่าน้ำ อดีตผู้นำกลุ่มพูโลที่ถูกทางการมาเลเซียจับกุมบุคคลดังกล่าวได้รับการปล่อยตัวแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของทางการมาเลเซีย ทางการไทยไม่ได้มีการประสานข้อมูลเพิ่มเติม
ส่วนประเด็นการตรวจสอบหลักฐานเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ พบว่า มี DNA ติดกับสายไฟและเชื่อว่าน่าจะมีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1คนนั้นให้เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนดำเนินการ หากพบว่ามีใครที่เกี่ยวข้องหรือร่วมกระทำการก็จะเร่งดำเนินการตามกฎหมาย แม้ผู้ก่อเหตุจะยืนยันว่ากระทำคนเดียวก็ตาม ส่วนข้อสงสัยว่ามีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่ ส่วนตัวไม่ขอฟันธงให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย