ศาลยุติธรรมจัดเสวนา “พยานหลักฐานจากกล้อง” เพื่อพิสูจน์ความจริง

กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.- ศาลยุติธรรมจัดเสวนา “พยานหลักฐานจากกล้อง ความจริงหรือภาพลวงตา” ถกขอบเขตอำนาจการรับฟังพยานหลักฐานภาพจากกล้อง


สำนักงานศาลยุติธรรม โดยสถาบันวิจัยและพัฒนารพีพัฒนศักดิ์ จัดเสวนาเรื่อง “พยานหลักฐานจากกล้อง “ความจริงหรือภาพลวงตา” มีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นวิทยากร ได้แก่ นายธานี สิงหนาท ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา, นายตนุภัทร รัตนพูลชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ., พ.ต.อ.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นักวิทยาศาสตร์ จากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ดร.จอมพล พิทักษ์สันตโยธิน อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ม.มหิดล

นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะประธานเปิดการเสวนา กล่าวว่า ปัจจุบันการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมมีความสำคัญ โดยเฉพาะขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้สามารถพิสูจน์ความผิดของผู้กระทำผิด ซึ่งมีการนำเอาเทคโนโลยีการถ่ายภาพด้วยกล้องมาใช้ในการพิสูจน์หลักฐานในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น สำนักงานศาลยุติธรรมจึงตระหนักถึงความสำคัญของหลักฐานภาพจากกล้อง โดยขั้นตอนการหาพยานหลักฐานในชั้นตำรวจและอัยการถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานและการมีคำพิพากษาของศาลอย่างมาก โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด หรือภาพจากสื่อออนไลน์ต่างๆ เชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการใช้เป็นพยานหลักฐานทางคดีในอนาคต


นายมุขเมธิน กลั่นนุรักษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า การใช้ภาพถ่ายจากกล้องในการสืบสวนในชั้นตำรวจหรือการพิจารณาในชั้นศาล ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณา เช่น ความคมชัดและความต่อเนื่องของภาพ รวมทั้งภาพที่อาจมีการตัดต่อ โดยเป็นข้อพิจารณาว่าหลักฐานภาพเหล่านี้สามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม แม้ภาพถ่ายจากกล้องเป็นหลักฐานที่เริ่มมีความสำคัญในการพิจารณาคดีอาญา แต่พยานบุคคลและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ ก็ยังมีความสำคัญ ต้องนำมาใช้ประกอบกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก