นายกฯ ระบุ เกษตรกรต้องปรับตัวเป็นเกษตรกรยุคไทยแลนด์ 4.0

ขอนแก่น 21 มิ.ย.- นายกฯ พบปะเกษตรกรสหกรณ์โคนมขอนแก่น ระบุ เกษตรกรต้องปรับตัว ใช้เทคโนโลยี เป็นเกษตรกรยุคไทยแลนด์ 4.0   เชิญชวนคนขอนแก่นไปตอบ 4 คำถามของนายกฯ รำคาญถูกบิดเบือน  คนตอบน้อย  พร้อมหยอดคำหวานรักคนขอนแก่น 


ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจช่วงบ่ายวันนี้ (21 มิ.ย.) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ว่า นายกรัฐมนตรีได้มาติดตามงานการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ ที่ สหกรณ์โคนมขอนแก่น ต.บ้านค้อ   พร้อมมอบเงินให้ธนาคารสินค้าเกษตร จำนวน 4,900,000 บาท เพื่อซื้อโคนมฝูงใหม่  และมอบอาคารโรงรวบรวมน้ำนมดิบ โรงผลิตอาหารสัตว์ เครื่องตรวจสารอัลฟาท็อกซินในน้ำนม  และมอบ ส.ป.ก.4-01 จำนวน 5 แปลงให้กับเกษตรกร 


นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความดีใจ ที่ได้พบกับเกษตรกร พร้อมขอเกษตรกรอย่าปลูกพืชเชิงเดียว  เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่อยู่นอกเขตชลประทาน ขาดแคลนน้ำ ดังนั้น ต้องเปลี่ยนจากการปลูกพืช มาเป็นการเลี้ยงปศุสัตว์ และทำเกษตรแปลงใหญ่  และต้องเป็นเกษตรกรยุคไทยแลนด์ 4.0 ดูการผลิตจากต้นทาง กลางทาง และปลายทางสู่ตลาด 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกษตรกรต้องระเบิดจากข้างใน และสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง  ไม่ต้องรอการช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเดียว   ทุกคนต้องมีเป้าหมาย  มีแผนใช้เทคโนโลยี ปรับตัวให้ทันโลก   เพราะเมื่อยืนได้ด้วยลำแข้ง ก็ไม่ต้องพึ่งรัฐ หรือเป็นหนี้ และหวังว่า รัฐบาลจะมาช่วยยกหนี้ให้ เพราะไม่มีรัฐบาลไหนที่จะยกหนี้ให้กับเกษตรกรได้ทั้งหมด 

“ผมไม่สามารถใช้ มาตรา 44 เข้ามาช่วยได้  เนื่องจากจะทำให้เสียระบบ และต้นเหตุของหนี้มาจากความไม่เข้มแข็งของประชาชน  แต่รัฐบาลนี้ก็มีมาตรการในการมาดูแลลูกหนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจเข้ามาแก้ปัญหาความยากจน และตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศได้ 3 ปีแล้ว ไม่สามารถนอนตาหลับได้ เพราะต้องคิดถึงการแก้ปัญหาให้กับทุกคน  รัฐบาลจะต้องช่วยเหลือทุกคนอย่างเท่าเทียม  และนักการเมืองหรือ ส.ส. ต้องคิดแบบนี้ ไม่ใช่จะช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม ดังนั้น วิธีการแก้ไข ทุกคนต้องร่วมมือกัน อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน กระจายรายได้ เชื่อมโยงกันทุกภูมิภาค   

นายกรัฐมนตรียังขอบคุณประชาชน ที่ไปตอบคำถาม 4 ข้อของนายกรัฐมนตรี และหากใครไม่ไป ก็ขอให้ไปตอบ โดยไม่บังคับ เพียงแต่รำคาญ พวกที่บิดเบือนว่า คนมาตอบคำถามน้อย ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล    ดังนั้น ต้องให้ไปศึกษาแง่คิด 50 ข้อ สำหรับการเป็นประชาธิปไตยที่ดี และว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนจน  เช่น พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  ยืนยันจะไม่ยกเลิก โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่แก้กฎหมาย ก็เพื่อให้บริการประชาชนให้มากขึ้น  และเพิ่มวงเงินรักษาต่อหัวให้มากขึ้น 

“ขอให้เชื่อว่ารัฐบาลนี้ จะไม่หลอกลวงประชาชน  อย่างการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ที่มีผู้มาลงทะเบียนในปีนี้ มากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะประชาชนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลมากขึ้น และที่ผ่านมามีการไปข่มขู่ว่า หากลงทะเบียนจะมีการลวงความลับของข้อมูล ทำให้ไม่มีคนมาลงทะเบียน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การชี้แจงกับประชาชนครั้งละนานๆ ก็ทำให้เหนื่อย แม้จะมีคนตั้งใจฟังน้อย สู้เพลงผู้สาวขาเลาะ ของลำไย ไหทองคำ ไม่ได้ แต่ก็ต้องทำ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และกรณีของลำใย ส่วนตัวไม่ว่าอะไร เป็นเรื่องสนุกสนาน เพียงแต่อยากสะกิดสังคม  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ยังได้นำผ้าข้าวมาที่ชาวบ้านนำมาคาดเอว มาเช็ดเหงื่อ และหอม พร้อมขอบคุณกำลังใจที่ให้มา และให้ข้อคิดว่า หากเราจะรักใคร ต้องดูว่าเขารักเราหรือไม่ ถ้าเขาไม่รักเรา ก็อย่าไปให้ความสำคัญ เพราะคนเหล่านั้นไม่เหมือนตน  ที่แม้จะมีบางส่วนไม่รัก แต่ตนก็รัก และจะทำเพื่อทุกคน 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้พบกับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จในจังหวัดขอนแก่น และได้ดื่มนมโรงเรียนจากฟาร์มโคนมจังหวัดขอนแก่น พร้อมกับแจกนมให้กับนักเรียน และกล่าวว่า ขอให้เด็กทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง โตเร็วๆ เรียนเก่งและเป็นคนดี     .- สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยมีฝนเพิ่ม-ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 11 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” ฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จับตาพายุไต้ฝุ่น “โพดุล” คาดเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน ก่อนขึ้นฝั่งจีนช่วง 13-14 ส.ค.นี้ ยันไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน […]

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]