เร่งสอบสาเหตุหญิงท้อง 6 เดือน ตกรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.-เหตุหญิงสาวที่พลัดตกในรางรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง จนรถไฟทับร่างเธอเสียชีวิต พร้อมทารกในครรภ์อายุ 6 เดือน ตำรวจสอบปากคำพยานที่อยู่ใกล้เคียงให้ข้อมูลว่า เธอมีอาการเซ เหมือนทรงตัวไม่อยู่ ขณะที่คนใกล้ชิดบอกว่า เธอมีอาการหน้ามืดบ่อย เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นอุบัติเหตุ โดยตรงจุดนั้นยังไม่มีประตูกั้น


ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นวินาทีที่หญิงสาวคนหนึ่งพลัดตกลงไปบนรางรถฟ้าแอรพอร์ตลิงค์ สถานีบ้านทับช้าง ท่ามกลางประชาชนที่มารอใช้บริการจำนวนมาก ก่อนที่รถไฟที่กำลังแล่นเข้าชานชาลาจะทับร่างของเธอ


จุดที่เกิดเหตุคือ ชานชาลาฝั่งที่วิ่งเข้าไปทางสถานีมักกะสัน แม้ภาพจากกล้องวงจรปิดจะไม่เห็นว่ามีใครอยู่ใกล้ หรือผลักเธอตกลงไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความตั้งใจหรืออุบัติเหตุ

หลังเกิดเหตุครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึง โดยช่วยกันนำศพออกมาจากบริเวณรางรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ ตรวจสอบเอกสารสำคัญที่ผู้เสียชีวิตพกมา พบชื่อในบัตรประชาชนชื่อ น.ส.รสรินทร์ เปลี่ยนหล้า อายุ 31 ปี เป็นชาว อ.เวียงสา จ.น่าน และพบรูปถ่ายในชุดครุยรับปริญญาติดตัวมาด้วย


เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานีให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 07.00 น. มีผู้โดยสารพลุกพล่าน เมื่อรับแจ้ง เจ้าหน้าที่รีบเข้ามายังจุดเกิดเหตุตามขั้นตอนอย่างรวดเร็ว

ผู้บริหารบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว เบื้องต้นพบว่า ไม่มีใครผลักผู้หญิงคนนี้ เธอเดินก้าวลงไปในรางเอง

ส่วนที่สถานีตำรวจรถไฟมักกะสัน พนักงานสอบสวนกล่าวว่า ในช่วงเช้าตำรวจนำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และได้เชิญแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ แต่เจ้าตัวยังไม่สะดวก เบื้องต้นทราบว่า แฟนสาวตั้งครรภ์ มีอาการหน้ามืดบ่อยครั้ง ช่วงเช้าเขาส่งแฟนสาวไปทำงานตามปกติ และส่งข้อความทางไลน์ว่า ถึงที่ทำงานหรือยัง แต่ไม่มีการตอบ เมื่อทราบว่ามีเหตุคนพลัดตกรถไฟฟ้า จึงขับรถกลับไปที่สถานี ขอเข้าไป และตำรวจให้ดูซองยา จนมั่นใจว่าเป็นของแฟนสาว รวมทั้งการยืนยันข้อมูลจากที่ดูภาพจากวงจรปิด

ส่วนที่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 3 บ้านนาสา อ.เวียงสา จ.น่าน เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้องของ น.ส.รสรินทร์ เปลี่ยนหล้า หรือ น้องเอ  ต่างพากันมารวมตัวกันที่บ้าน เก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อเตรียมจัดงานศพ ส่วนนายวีระ และนางธัญพร เปลี่ยนหล้า พ่อและแม่ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้ามารับศพที่กรุงเทพฯ

นายจารึก ต๊ะปะแสง ลุงของน้องเอ เล่าว่า น้องเป็นเด็กดี หลังเรียนจบจนทำงาน ส่งเงินให้ที่บ้าน เพื่อส่งน้องชายให้เรียนต่อ และเพิ่งกลับบ้านล่าสุดช่วงสงกรานต์ อุปนิสัยร่าเริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อน่าจะเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่การคิดสั้น

พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ก่อนเกิดเหตุ นายปิยพงษ์ รอบคอบ สามีของผู้เสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์มาส่งที่สถานีตามปกติ ก่อนเกิดเหตุ น.ส.รสรินทร์ เกิดอาการเสียการทรงตัว จนพลัดตกลงไปในรางรถไฟ ซึ่งกำลังมีรถไฟขบวนเปล่า CiTy 04 ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าชานชาลามาชน การสอบพยาน 2 คน ทราบว่า ขณะเกิดเหตุ น.ส.รสรินทร์ มีอาการเซไปมา พยายามยืนตั้งหลัก โดยหันหน้าไปทางรางรถไฟ แต่ไม่สามารถฝืนยืนได้ จึงตกลงไปเสียชีวิต พร้อมทารกในครรภ์วัย 6 เดือน โดยเธอเพิ่งแต่งงานได้ 2 ปี หลังคบหากับแฟนมา 10 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย