อุทัยธานี 15 มิ.ย.- รองปลัดฯยธ.พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.อุทัยธานี พบอีกสร้างอาคารคล้ายรีสอร์ท ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ ครม.มีมติให้ชาวบ้านทำการเกษตร
บ่ายวันนี้(15มิ.ย.)พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบภ.จ.อุทัยธานี และคณะ เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ป่าในความดูแลของนิคมสหกรณ์ทับเสลา อ.ลานสัก หลังสืบทราบว่ามีการสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่และสนามกอล์ฟ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยทับเสลา และป่าห้วยคอกควาย บริเวณหมู่ 3 บ้านทุ่งนางาม อ.ลานสัก ติดกับเขาปลาร้า
เมื่อเดินทางไปถึง พบว่า ไม่มีการสร้างสนามกอล์ฟแต่เป็นการสร้างอาคารห้องพัก และสูง 2 ชั้น มีทางเดินเชื่อมไปห้องหลายห้องคล้ายรีสอร์ท ซึ่งยังสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยมีลักษณะที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้มาไม่ต่ำกว่า 1 ปี และไม่พบคนงานก่อสร้าง หรือผู้ที่ดูแลอาคาร
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเดิมมีมติ ครม.เมื่อปี2517 ให้กรมป่าไม้ แบ่งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยทับเสลา และป่าห้วยคอกควาย จำนวน 75,000 ไร่ ให้นิคมสหกรณ์ทับเสลา นำไปจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านทำการเกษตรเลี้ยงชีพเท่านั้น โดยชาวบ้านสามารถ ครอบครองและทำมาหากินการเกษตรตามวัตถุประสงค์ของ ครม.ได้
ต่อมาเจ้าของที่ดิน 3 แปลงดังกล่าวขายให้กับเจ้าของธุรกิจโรงน้ำตาลรายใหญ่ใน จ.อุทัยธานี ซึ่งที่ดินแปลงนี้ถือเป็นที่ดินผืนที่สวยที่สุดในจำนวน 7หมื่นไร่ โดยปี 2555 เจ้าของรายใหม่ได้ก่อสร้างอาคารดังกล่าวแทนการ ทำการเกษตร ซึ่งเท่ากับว่าใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์
จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของที่ปัจจุบัน ถือครองที่ดินทั้งหมด แบ่งเป็นที่ดินนิคม 3 แปลง เนื้อที่ 92 ไร่ และพื้นที่ติดกันเป็น นส.3 ก. เนื้อที่35 ไร่ โดยกรมป่าไม้ ในฐานะผู้เสียหาย จะไปแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.ลานสัก และให้ ป.ป.ท.และดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบว่ามีการมีการซื้อขายถูกต้องหรือไม่ กับมีการใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ รวมทั้งจากข้อมูลพบว่า นักธุรกิจรายนี้มีความสัมพันธ์อันดีกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ โดยจะมีการตรวจสอบว่า ใช้ชื่อนักธุรกิจเป็นนอร์มินีในการครอบครองที่ดินผืนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย