ทำเนียบรัฐบาล 13 มิ.ย.-คสช.เตรียมพิจารณาใช้คำสั่งมาตรา 44 ในสัปดาห์หน้า เร่งดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน หลังติดขัดปัญหาหลายข้อ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า วันนี้(13 มิ.ย.) ไม่มีการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ก่อนการประชุมครม.จึง ยังไม่ได้ออกประกาศ มาตรา 44 เพื่อเร่งดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน และยังอยู่ในกระบวนการทำร่างประกาคำสั่ง ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายรายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งร่างข้อกฎหมายที่จะใช้อำนาจมาตรา 44 เพื่อเสนอให้คสช. พิจารณาในสัปดาห์หน้า
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการศึกษาข้อมูล พบว่าการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา มีปัญหา 5 ด้านที่สามารถใช้อำนาจ มาตรา44 ได้ ประกอบด้วย 1.การก่อสร้างต้องใช้สถาปนิก วิศวกรจากจีนเข้ามาดำเนินการ แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดขัดข้อกฎหมายของไทย ที่วิศวกรที่เป็นบุคคลจะต้องสอบใบอนุญาตจากไทยก่อน ยกเว้นกรณีนิติบุคคล
“ตามกฎหมายคือต้องสอบอย่างเดียว แต่จีนบอกว่าเขามีรถไฟความเร็วสูงถึง 20,000 กิโลเมตร แต่ไทยยังไม่มีสักเมตร ทำไมถึงต้องสอบวิศวกรของเขา จึงเห็นว่าต้องอาศัยอำนาจ มาตรา 44 เพื่อให้ดำเนินการได้ โดยจะอนุญาตให้วิศวกรสามารถเข้ามาทำงานได้ แต่วิศวกรของจีนจะต้องเข้ารับการอบรมเรียนรู้ภูมิศาสตร์ของไทยและสภาพแวดล้อมเพิ่มเติมด้วย” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนข้อติดขัดที่ 2 คือ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างที่ต้องผ่านกระบวนการของซูเปอร์บอร์ด หากวงเงินเกินกว่า 5,000 ล้านบาท 3.ราคากลาง เนื่องจากทุกอย่างที่เป็นการจัดซื้อจัดจ้าง จะต้องกำหนดราคากลาง จึงจะเสนอให้ใช้การเสนอครม.กำหนดเป็นราคากลางเพื่อใช้ในการอ้างอิง
“4.การจัดซื้อระหว่างรัฐต่อรัฐ จะต้องเป็นรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยของไทยไม่มีปัญหา แต่ของทางการจีนจะให้บริษัทเอกชนที่สภาพัฒน์ของจีนเป็นผู้เลือก ดังนั้น จึงให้กระทรวงคมนาคมของไทยเร่งติดต่อประสานงานจีน เพื่อให้ทางการจีนทำหหนังสือรับรองกับบริษัทที่จะดำเนินการก่อสร้าง และปัญหาที่ 5 คือ ในการดำเนินโครงการ บางพื้นที่จากกรุงเทพ-นครราชสีมา อาจผ่านเส้นทางป่าสงวนหรือพื้นที่สปก.หรือพื้นที่เฉพาะการเกษตรเท่านั้น การจะใช้พื้นที่ดังกล่าวอาจต้องใช้อำนาจของมาตรา 44 ด้วย” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคสช.กำชับว่า การใช้อำนาจตามมาตรา 44 สามารถทำได้ หากมีเหตุและผลรองรับ และประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่า ทุกอย่างที่ทำนั้น ไม่ได้ทำให้ระบบงานเสียหาย แต่ทำให้การขับเคลื่อนของเศรษฐกิจเป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้.-สำนักข่าวไทย