กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – กรมการขนส่งทางบก ยืนยันเก็บภาษีรถประจำปีในอัตราคงเดิม ไม่มีแนวคิดปรับอัตราการจัดเก็บภาษีรถประจำปีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์
กรณีโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ที่มีอายุมากกว่า 7 ปี ขึ้นไป โดยจัดเก็บตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถรุ่นใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ประหยัดพลังงาน ที่มีประสิทธิภาพในการลดมลพิษมากขึ้นนั้น
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่าจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข่าวเก่าที่เคยเผยแพร่เมื่อปี 2559 โดยไม่ใช่นโยบายหรือมาตรการที่มีผลในทางปฏิบัติ จากสำนักงานเศษฐกิจอุตสาหกรรม ( สอศ. ) ในส่วนของกรมการขนส่งทางบกได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้ว พร้อมยืนยันยังคงจัดเก็บภาษีรถประจำปีในอัตราคงเดิมตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับอัตราการจัดเก็บภาษีรถประจำปีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี แต่อย่างใด แต่เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน การตรวจสภาพรถสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีรถประจำปี
กรมการขนส่งทางบก ยังมีแนวคิดที่จะ “ลดอัตราภาษี” ในระบบระบบรถสาธารณะ ทั้ง พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.ขนส่ง เพื่อจูงใจในการสร้างมาตรฐานคุณภาพการให้บริการประชาชน และลดต้นทุนการเดินรถ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ เอื้อต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยรวม (เสนอแก้ไข พ.ร.บ. แล้วในการรวมกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันผ่านการพิจารณาของ สคก.แล้ว เพื่อเสนอ สนช.ต่อไป )
น.ส.นิสากร จึงเจริญธรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่เคยมีนโยบายดังกล่าว โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ขอยืนยันว่าไม่เคยมีนโยบายเช่นนี้มาก่อน เข้าใจว่าข่าวนี้น่าจะเป็นข่าวเก่า เมื่อปี 2559 ในช่วงที่ สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรมรายเดือน ประจำเดือนเมษายน 2559 จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเชื่อและส่งต่อข่าวนั้นๆ เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้น. -สำนักข่าวไทย