เพชรบูรณ์ 2 พ.ย.-อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ขุดพบโครงกระดูกสุนัข ฝังรวมอยู่กับโครงกระดูกมนุษย์ผู้หญิง อายุเกือบ 2,000 ปี
นายเดชา สุดสวาท หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่าในปีงบประมาณ 2559 ที่ผ่านมา อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ได้ทำการขุดพบโครงการดูกในพื้นที่อุทยานฯได้ถึง 5 โครง แต่ที่สมบูรณ์ที่สุดคือโครงกระดูกมนุษย์ที่ฝังรวมอยู่กับโครงกระดูกสุนัข ซึ่งได้ขุดพบเมื่อประมาณกลางเดือนที่ผ่านมา โดยลักษณะการฝังมีการนำภาชนะเครื่องปั้นดินเผามาฝังรวมอยู่ด้วย การนำเอาขาสุนัขก่ายทับไว้ที่บนภาชนะดังกล่าว ซึ่งดูลักษณะคล้ายชามข้าว และบริเวณที่ปากของโครงกระดูกสุนัขจากการใช้เครื่องมือตรวจสอบพบว่า มีชิ้นส่วนกระดูกและภาชนะคล้ายชามอยู่ด้วย ส่วนโครงกระดูกมนุษย์นั้น ได้มีการนำภาชนะไปวางทับไว้บริเวณหน้าขาทั้ง 2 ข้าง นอกจากนั้นยังพบภาชนะดินเผาฝังอยู่บริเวณปลายเท้าของโครงกระดูกมนุษย์ ต่อมาได้นำฟันเขี้ยวขากรรไกรล่างขวาของตัวอย่างโครงกระดูกมนุษย์ที่พบ ไปวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาค่าอายุ โดยวิธี AMS ปรากฏว่าได้ค่าอายุประมาณ 1,730 ปี นับว่าเป็นหลักฐานสำคัญของการศึกษาและพัฒนาการของเมืองศรีเทพ
สำหรับโครงกระดูกดังกล่าว จากการพิจารณาจากหลักฐานและข้อมูล น่าจะเป็นเพศหญิงมีความสูงประมาณ 164 ซม. เมื่อครั้งมีชีวิตน่าจะมีความรักและผูกพันธ์กับสุนัขตัวนี้ เมื่อเสียชีวิตแล้วอาจจะฆ่าสุนัขตัวดังกล่าวฝังลงไปในหลุมศพพร้อมๆ กันก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ก็จะได้มีการศึกษาและค้นคว้าหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อหาเหตุผลของการจัดพิธีการฝังศพในลักษณะดังกล่าว ด้านนางสุริยา สุดสวาท นักโบราณคดี กล่าวว่า สำหรับในประเทศไทยมีการขุดพบโครงกระดูกสุนัขโบราณ 5 โครง จากแหล่งโบราณคดี 4 แห่ง ด้วยกัน คือ 1.แหล่งโบราณคดีบ้านท่าแก จ.ลพบุรี 2.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จ.อุดรธานี 3.แหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด จ.นครราชสีมา จำนวน 2 โครง และ 4.แหล่งโบราณคดีบ้านโนนค้อ จ.กาฬสินธุ์
สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากปรากฎร่องรอยหลักฐานซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยของมนุษย์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมทวารวดี และเขมร ตามลำดับ ก่อนที่จะถูกทิ้งร้างไปด้วยสาเหตุโรคระบาดร้ายแรง หรือปัญหาภัยแล้ง.-สำนักข่าวไทย