กทม.6 มิ.ย.- รองฯศรีวราห์ โต้ “ศรีสุรรณ” บันทึกจับกุม “เปรี้ยว” เฉียด 100 เรื่องปกติ เอาไปขอ 2 ขั้นไม่ได้ ไม่กระทบพยานศาล สั่ง “ตม.5” ตรวจสอบภาพนายตำรวจคู่ผู้ต้องหาหั่นศพ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.กล่าวกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินฯให้ตรวจสอบกรณีเผยแพร่บันทึกจับกุม น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย ผู้ต้องหาฆ่า หั่น อำพรางศพ และพวก มีรายชื่อข้าราชการตำรวจกว่า 90 นาย โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจกระทบการเป็นพยานในชั้นศาลและใช้การมีชื่อในบันทึกจับกุมเพื่อประโยชน์ สิทธิส่วนตนว่า หลังทราบว่ามีการร้องเรียนได้รายงาน ผบ.ตร.ซึ่งได้สั่งการให้ตนดำเนินการเรื่องนี้ จึงทำหนังสือสอบถามไปยัง พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี ผบก.ตม.5 เพื่อเตรียมข้อมูลชี้แจงผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ถือว่าปกติที่มีการร้องเรียนเราก็ต้องตรวจสอบ เบื้องต้นได้รับการชี้แจงว่า บันทึกดังกล่าวเป็นบันทึกการรับมอบตัวผู้ต้องหา ไม่มีอะไรซับซ้อน ปกติการทำบันทึกจับกุมคดีต่างๆของตำรวจจะเป็นลักษณะนี้ ที่มีทั้งรายชื่อผู้อำนวยการสั่งการ ผู้ปฏิบัติ ผู้ร่วมสืบสวนสอบสวน ในหลายคดีที่ประสานการสืบสวนร่วมกันหลายหน่วยก็เป็นแบบนี้ ตนยังเคยทำคดีที่มีรายชื่อผู้ร่วมจับกุมมากกว่า 100 คน กรณีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผู้สั่งการอำนวยการ ส่วนกลุ่มผู้ปฏิบัติก็มาจากหลายหน่วย บางคนแม้ไม่ได้มาด้วยตนเองแต่ประสานงานสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชามาทำปฏิบัติงาน ก็ถือว่ามีชื่อร่วมปฏิบัติการนี้ พล.ต.ต.บัณฑิต ได้แจงว่าการรับมอบตัวมีผู้ร่วมปฏิบัติจริงตอนรับมอบตัว 40 นาย แต่ลงนามท้ายบันทึกจับกุมเพียง 10 นายเท่านั้น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ที่สั่งให้ตรวจสอบ ไม่ได้มองเป็นความผิดหรือติดใจ มองเป็นเรื่องปกติ ที่ตำรวจทำบันทึกจับกุมรูปแบบนี้ ที่ห่วงว่าจะกระทบการเป็นพยานในศาล คดีนี้ผู้ต้องหามอบตัว หากพนักงานสอบสวนจะให้เป็นพยานในชั้นศาลก็ต้องนำคนลงนามร่วมจับกุมเป็นพยาน ไม่ใช่ทุกคนที่มีชื่อ และต้องยืนยันว่ารายชื่อร่วมจับกุมทั้ง 90 นาย ไม่สามารถนำไปใช้ขอ 2 ขั้น หรือตำแหน่งได้ คนละส่วนกัน ขอนายศรีสุวรรณ ไม่ต้องกังวลประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนให้ ผบก.ตม.5 ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเป็นข้อมูลชี้แจงต่อสื่อและชี้แจงต่อผู้ตรวจการแผ่นดินฯโดยให้รายงานผลการตรวจสอบใน 30 วัน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ยังสั่งให้ พล.ต.ต.บัณฑิต ตรวจสอบกรณีภาพถ่ายตำรวจกับผู้ต้องหา และภาพผู้ต้องหานอนในที่ทำการ ตม.ว่า ที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งทาง ผบก.ตม.5 ได้ตรวจสอบประเด็นนี้ไปตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสั่งการผู้เกี่ยวข้องไปช่วยราชการที่ ศปก.ตม.5 แล้ว.-สำนักข่าวไทย