ดีเอสไอ 6 มิ.ย.-ผู้เสียหายถูกหลอกเป็นพรีเซนเตอร์ ขายน้ำแร่ ยาสีฟัน ร้องดีเอสไอ สูญเงินรวมกว่า 50 ล้านบาท
กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 50 คน เดินทางมาร้องเรียนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังโดนหลอกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ขายน้ำดื่มและยาสีฟัน ต้องจ่ายค่าประกันคนละ 20,000 บาท ก่อนยกเลิก เสียหายรวมประมาณ 50 ล้านบาท โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง
นายวรุณ สีระกุล ตัวแทนผู้เสียหายจาการถูกหลอกให้เป็นพรีเซนเตอร์ขายน้ำดื่มและยาสีฟัน กล่าวว่า ตนจ่ายเงินค่าประกันให้แก่ลูกสาว 2 คน รวมเป็นเงิน 40,000 บาท เพราะคิดว่าค่าตอบแทนที่จ่ายรายเดือนจากบริษัทเป็นเงินที่ดี และงานที่ทำก็ไม่ได้หนักหนาแค่โพสต์สินค้าผ่านสื่อออนไลน์ แต่เมื่อบริษัทไม่ยอมจ่ายเงินเดือน และอยู่ๆมายกเลิกสัญญาแบบนี้ ถือว่าไม่เป็นธรรมเข้าข่ายหลอกลวง จึงต้องมารวมตัวกันเรียกร้อง
โดยผู้เสียหายต้องการให้ดีเอสไอ ตรวจสอบบริษัท โปรเกรทชั่น เอคชีฟเมนท์ เทรดดิ้ง จำกัด ย่านสะพานสูง ภายหลังถูกชักชวนให้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า ด้วยการโพสต์ข้อความขายสินค้าประเภทน้ำดื่ม ยี่ห้อ Alka-one ,ยาสีฟันAmada-Herb และรองเท้ายี่ห้อ Ninja โดยผู้สมัครต้องจ่ายค่าประกันสัญญารายละ 10,000-20,000 บาท โดยบริษัทให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ระยะเวลา 1 ปี งานที่ทำแค่โพสต์สินค้าผ่านสื่อออนไลน์ ทั้งเฟซบุค,อินสตาแกรม,ไลน์ วันละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา1ปี โดยบริษัทจะจ่ายเงินเดือนให้ทุกวันที่ 15 ของเดือน รายละ 10,000-20,000 บาท
ในช่วงแรกที่บริษัทเปิดในเดือนก.พ.-เม.ย.ทุกคนได้รับค่าตอบแทนจริง แต่เมื่อถึง วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา กลับถูกเลื่อนในการจ่ายค่าตอบแทนเป็นวันที่ 21 พ.ค.โดยอ้างว่าบริษัทประสบปัญหาทางการเงิน พร้อมทั้งขอนัดประชุมใหญ่ในวันที่28พ.ค.แต่เมื่อถึงกำหนดนัดวันประชุมกลับถูกขอเลื่อนการประชุมไปอีก และแจ้งให้ผู้เสียหายทั้งหมดเข้ามารับค่าตอบแทนเป็นเช็คเงินสดในวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งแจ้งยกเลิกระบบพรีเซ็นเตอร์ทั้งหมดและไม่คืนค่าสัญญา โดยจะเปลี่ยนให้ทุกคนมาทำเป็นระบบขายตรงสินค้าแทน
ทั้งนี้ ผู้เสียหายทั้งหมดคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงรวมตัวเข้าร้องต่อ ดีเอสไอ เพื่อให้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าว โดยมีผู้สมัครเป็นพรีเซ็นเตอร์รวม 800 คน มูลค่าความเสียหายทั้งค่าประกันที่จ่ายไป และเงินเดือนที่ไม่ได้รับมีมากกว่า 50 ล้านบาท
ด้านพ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า จะขอรายละเอียดคำร้องของผู้เสียหาย และประชุมทีมสืบสวนว่าเข้าข่ายเป็นคดีร่วมลงทุน หรือแชร์ลูกโซ่หรือไม่ หรือว่าเป็นคดีฉ้อโกง โดยดีเอสไอจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย