นครศรีธรรมราช 2 มิ.ย. – ส่วนคดีสะเทือนวงการสงฆ์ พระวัดดังเมืองคอนฆ่าฝังดินสามเณร วันนี้เจ้าหน้าที่ขุดพบศพสามเณรแล้ว พร้อมคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหาอ้างบวชเป็นพระเพราะต้องการชดเชยความผิด
การขุดค้นหาร่างของ “สามเณรปลื้ม” เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าปิดกั้นพื้นที่วัดวังตะวันตก อ.เมืองนครศรีธรรมราช และพาตัวนายเด่นชัย ภูมินิยม หรือ พระเด่น และนายสุริยา กุศลสุข หรือ สามเณรสุริยา ที่ปัจจุบันถูกจับสึกจากการเป็นสงฆ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังทั้งสองคนสารภาพร่วมกันลวงสามเณรปลื้มไปหา ก่อนใช้ท่อพีวีซีทุบตีจนบาดเจ็บสาหัส และพาขึ้นรถกระบะออกจากวัดไป แต่สามเณรปลื้มกลับสิ้นใจระหว่างทาง นายเด่นชัยและพวกจึงช่วยกันนำศพใส่ถัง 200 ลิตร แล้วนำกลับวัด ขุดหลุมฝัง นำแผ่นพื้นปูนโยนทับแผ่นเหล็ก เทปูนปิดด้านบน ก่อนนำพระพุทธรูปมาตั้งที่จุดฝังศพ
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำศพสามเณรปลื้มขึ้นมา ได้นำนายเด่นชัย และนายสุริยา มาขอขมาหน้าหลุมศพ ซึ่งนายเด่นชัยเอ่ยปากขออโหสิกรรม พร้อมบอกว่าที่มาบวชเป็นพระเพราะสำนึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ส่วนที่นำพระพุทธรูปวางบนหลุมศพ เพราะต้องการให้คนได้กราบไหว้สามเณรปลื้ม และชดเชยความผิด
เมื่อนายเด่นชัยกล่าวขอขมาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้ใช้ทั้งกำลังคนและเครื่องมือขุดพื้นดินจนพบร่างสามเณรปลื้มในสภาพผิวหนังแห้งติดกระดูก สวมใส่เสื้อผ้ากีฬา นอนตะแคงอยู่ในหลุม สร้างความสลดใจให้กับผู้พบเห็น ขณะที่พระครูใบฎีกาสราวุฒิ วชิราญาโณ พระวัดวังไทร ญาติของสามเณรปลื้ม ยอมรับไม่คาดคิดว่าสามเณรปลื้มจะพบจุดจบเช่นนี้ เพราะเป็นคนเรียบร้อย เมื่อมาบวชก็ชอบศึกษาธรรมะ
อย่างไรก็ตาม ก่อนสามเณรปลื้มหายตัวไป เคยโทรปรึกษาเจ้าอาวาสวัดวังไทรว่าถูกกล่าวหาว่าขโมยเงินวัด จากนั้นไม่ได้ติดต่อพระครูใบฎีกาสราวุฒิ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งปกติจะทำเป็นกิจวัตร และครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกันคือเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปี 2559
เหตุการณ์นี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เกิดขึ้นตั้งแต่ 5 มกราคม 2560 ขณะนั้นนายเด่นชัย และแฟน คือ น.ส.ปิยะฉัตร หรือ บิว อรุณสกุล ได้ร่วมกันดูแลผลประโยชน์ภายในวัด โดยไม่มีกรรมการร่วม ส่วนสาเหตุที่ลงมือฆ่า ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ สามเณรปลื้มรู้เห็นความผิดปกติเรื่องผลประโยชน์ภายในวัด รวมถึงปมการขโมยทรัพย์สิน ขณะที่ผู้ก่อเหตุเชื่อว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ขณะนี้ควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องได้แล้ว 5 คน ประกอบด้วย นายเด่นชัย นายสุริยา ซึ่ง 2 คนนี้ให้การสารภาพ ส่วน น.ส.ปิยะฉัตร หรือ บิว ให้การปฏิเสธ อีก 2 คนที่เหลือเจ้าหน้าที่กันไว้เป็นพยาน คดีนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายเด่นชัย และ น.ส.ปิยะฉัตร เป็นตัวการใหญ่ลงมือก่อเหตุ แต่ยังต้องหาพยานหลักฐานเพื่อขยายผลต่อไป. – สำนักข่าวไทย