ขอนแก่น 31 พ.ค.-ตร.ขอนแก่นประชุมเครียดโลกโซเชียลเผยแพร่ “น.ส.เปรี้ยว” มือฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะขอนแก่นฝังดิน เป็น 1 ในขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ออกมาโต้ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย ที่ก่อคดีหั่นศพ เพราะความแค้นส่วนตัวที่แจ้งจับแฟนหนุ่ม
ความคืบหน้าในการตามล่าคนร้ายฆ่าหั่นศพ น.ส.วริสรา หรือแอ๋ม กลิ่นจุ้ย อายุ 22 ปี กระทั่งศาลจังหวัดขอนแก่นได้ออกหมายจับ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย (เปรี้ยว) อายุ 24 ปี น.ส.กวิตา ราชดา (เอิร์น) อายุ 25 ปี น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ อายุ 21 (เบ็นซ์) นายวศิน นามพรหม (นิว) อายุ 22 ปี และเตรียมออกหมายจับ นส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต (แจ๊ส) อายุ 28 ปี และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย บก.สส.ภ.4 ได้จับกุม นายวศิน และ นส.เบ็นซ์ นำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามข่าวที่เสนอมาโดยตลอด
พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4 ได้ร่วมประชุมในกรณีฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะซึ่งพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีสื่อได้เสนอข่าวเผยแพร่ในโลกโซเชี่ยล
จากนั้น พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต เปิดเผยว่า ในเรื่องนี้ที่ นส.แอ๋ม ถูกฆาตกรรมลักษณะบีบคอจนตายในรถยนต์ และนำมาเฉือนหั่นศพในรีสอร์ท เพราะเป็นเรื่องขัดแย้งส่วนตัวระหว่าง น.ส.แอ๋ม กับ น.ส.เปรี้ยว พร้อมกับพวก โดยมีสาเหตุเมื่อปี 2559 นส.แอ๋ม ไปแจ้งจับแฟนของ น.ส.เปรี้ยว เรื่องยาเสพติดจำนวนน้อยมาก เป็นเหตุให้ นส.เปรี้ยว เจ็บแค้น จึงพาพวกมาฆ่า น.ส.แอ๋ม อย่างโหดเหี้ยมเลียนแบบภาพยนต์ฝรั่งที่ชอบความรุนแรง ซึ่งไม่เกี่ยวกับยาเสพติดข้ามชาติตามที่สื่อออนไลน์เสนอข่าว
พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต เปิดเผยต่อมาว่า ที่สื่อออนไลน์เสนอข่าวว่า ผู้ตายมีส่วนในขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยเสนอข่าวว่า น.ส.เปรี้ยว นส.เอิร์น น.ส.แจ๊ส หลบหนีการจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังประเทศเมียนมาร์ โดยมีข้อมูลการผ่านแดนจากประเทศไทยที่ด่าน ตม.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ทีผ่านมา หลังก่อเหตุฆาตกรรมผู้ตายเพียง 1 วัน ทั้งนี้จากข้อมูลที่เชื่อถือได้ ยืนยันว่ามูลเหตุของการฆาตกรรม น.ส.แอ๋ม นั้น มีข้อมูลยืนยันว่าผู้ตายถูกกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ สั่งฆ่าตัดตอนหลังนำข้อมูลของเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ไปแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาหลายรายในปี 2559 ในจำนวนนั้นมีสามีของ น.ส.เปรี้ยว รวมอยู่ด้วย กลุ่มนายทุนและเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดจึงไม่พอใจจึงมีคำสั่งให้ น.ส.เปรี้ยว ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่นั้น วางแผนทุกขั้นตอนจนนำไปสู่การก่อเหตุฆ่าหั่นศพ ดังกล่าว
ในเรื่องนี้ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องขบวนการค้ายาเสพติด เพราะในการสืบสวนทราบตั้งแต่เบื้องต้นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผู้ตายกับผู้ที่ถูกออกหมายจับหลบหนีไปเมียนมาร์ ซึ่งไม่ได้อยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ แต่เป็นการค้ารายย่อยและอยู่ในวงแคบภายในจังหวัดเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาได้มาโดยตลอด ดังนั้นรายของ นส.เปรี้ยว ที่พัวพันยาเสพติดเป็นการขายธรรมดาและอยู่ในพื้นที่เท่านั้น ไม่ใช่ผู้ค้าหรือผู้ส่งรายใหญ่ที่เป็นขบวนการข้ามชาติตามที่เป็นข่าว.-สำนักข่าวไทย