จ.น่าน 16 ธ.ค.-กรมอุทยานฯ พร้อมส่งมอบไม้จันทน์หอมที่แปรรูปเรียบร้อยแล้วให้กระทรวงวัฒนธรรม ในวันที่20 ธ.ค.นี้ ระหว่างนี้จัดนักวิชาการเฝ้าดูแลรักษาเนื้อไม้ให้คงสภาพสมบูรณ์ที่สุด
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า หลังจาก ทส.ได้รับมอบหมายในการดาเนิน จัดหาไม้จันทน์หอมสำหรับนำไปจัดสร้างพระโกศและใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชซึ่งได้มีการประสานงานกับสานักพระราชวัง และกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)เพื่อดำเนินการคัดเลือกไม้จันทน์หอม ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้ประกอบพิธีบวงสรวง ไม้จันทน์หอม ซึ่งมีลักษณะเหมาะสม ยืนต้นตายตามธรรมชาติ เปลาตรง โดยคณะโหรพราหมณ์ จากสำนักพระราชวังเมื่อวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมาและขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการตัดและแปรรูปไม้จันทน์หอม ทั้ง9ต้น เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ไม้จันทน์หอมแปรรูป จานวน 1,461แผ่น ปริมาตร 4.57 ลูกบาศก์เมตร
นายธัญญา กล่าวต่อว่า หลังจากแปรรูปแล้ว ได้ประสาน อาจารย์จากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาตรวจสอบคุณภาพเนื้อไม้ และให้คำแนะนำในการเก็บรักษา โดยการนำมาผึ่งลมและเปิดพัดลมเพื่อไล่ความชื้น เพราะหากเนื้อไม้มีความชื้นมาก จะทำให้ไม่บิดคดงอและเป็นเชื้อราได้ ซึ่งขณะนี้เนื้อไม้มีความสมบูรณ์ตามมาตรฐาน และจะประสานสำนักช่างสิบหมู่ มาตรวจสอบอีกครั้งก่อนส่งมอบให้ วธ.ในวันอังคารที่20 ธ.ค.นี้ ที่สำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม ใน เวลา15.09 น.โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ส่งมอบให้กับรมว.วัฒนธรรม เพื่อนำไปจัดสร้างพระโกศ และใช้ในงาน พระราชพิธีพระบรมศพ ตามโบราณราชประเพณี ต่อไป
สำหรับกำหนดการวันที่ 19 ธ.ค.59 จะมีพิธีบวงสรวงราชรถที่จะใช้ในการเคลื่อนขบวนไม้จันทน์หอมและมีกำหนดการเคลื่อนออกจากอุทยานแห่ง ชาติกุยบุรี วันที่ 20 ธ.ค.ฤกษ์เวลา 06.39 น. โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ผู้ดูแลไม้จันทน์หอม จะจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียน ที่เครื่องทองน้อย หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช , สรงน้ำ ที่ไม้จันทน์หอม แล้วโปรยดอกไม้โดยรอบ
จากนั้นนำขบวนรถบรรทุก ไม้จันทน์หอมประกอบพิธีสักการะ หน้าที่ว่าการอาเภอกุยบุรี โดยมี ข้าราชการ พนักงาน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมสักการะ แล้วจึงออกเดินทางมาตามเส้นทาง
เส้นทางผ่าน อ.สามร้อยยอด อ.ปราณบุรี อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.ชะอำ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ผ่าน จ.ราชบุรี จ.นครปฐม ไปยัง สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เพื่อส่งมอบให้ วธ.สำหรับนำไปจัดสร้างพระโกศ และใช้ในงาน พระราชพิธีพระบรมศพ ตามโบราณราชประเพณี ต่อไป.-สำนักข่าวไทย