รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพสาวสวย

ขอนแก่น 26 พ.ค.- ตำรวจนำตัวสามี และแม่สาวคาราโอเกะที่ถูกฆ่าหั่นศพมาสอบปากเครียด และรู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว คาดมีไม่น้อยกว่า 2 คน


ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพสาวสวยจับยัดถังฝังดิน ใน อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น โดยศพมีสภาพหน้าตาถูกทำร้ายจนบวมปูด ลำคอถูกรัด และเลื่อยตัดลำตัวจนขาดเป็น 2 ท่อน โดยตำรวจทราบชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว คือ “น้องแอ๋ม”  อายุ 22 ปี 

ล่าสุด วันนี้ (26 พ.ค.) ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน 3 ตำรวจภูธรภาค 4  ตำรวจได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง หน้าเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาตรวจสอบ พบว่าเมื่อคืนวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 เวลา 00.59 น. พบผู้เสียชีวิตซ้อนรถจักรยานยนต์ ลงมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ก่อนที่จะเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ จากนั้นเดินไปซ้อนรถจักรยานยนต์ที่จอดรอออกไป โดยคนขับรถจักรยานยนต์มีลักษณะผมสั้น เพื่อนำภาพมาประกอบการติดตามจับกุมคนร้าย และหาความเชื่อมโยงในคดี จากนั้นได้นำตัวสาวทอม ชื่อ “ป๊อปปี้” เพื่อนสนิทมาสอบปากคำ ซึ่งจากการให้การของสาวทอม ถือว่าเป็นประโยชน์กับรูปคดี และไม่มีพิรุธจึงปล่อยตัวไป  


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ได้เชิญ สามีน้องแอ๋ม เดินทางมาจากจังหวัดหนองคาย เพื่อมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 8 ชั่วโมง จึงอนุญาตให้เดินทางกลับ

โดยสามีน้องแอ๋ม ให้การว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ โดยตนแต่งงานอยู่กินกับผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่ต้นปี ก่อนจะย้ายไปทำงานด้วยกันที่ กทม. ส่วนตัวทราบดีว่าผู้เสียชีวิตเคยคบหาสาวหล่อมาก่อน แต่หลังแต่งงาน ตนต้องออกต่างจังหวัดบ่อยๆ เพราะทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แฟนสาวจึงไปอยู่กับญาติที่ จ.ชัยนาท และพบรักกับสาวหล่ออีกคน ชื่อ “เบ็น”

หลังจากนั้น แฟนสาวก็ไปๆ มาๆ ระหว่าง กทม. กับ จ.ชัยนาท เวลาอยู่ด้วยกันก็เคยเห็นสาวหล่อชื่อ “เบ็น” โทรมา ตนก็เคยห้าม แต่แฟนสาวก็ไม่เลิกคบหาพูดคุย ตนจึงปล่อยไปตามใจ เพราะไม่อยากมีปัญหา ตนยังทราบอีกว่า สาวหล่อชื่อเบ็น เคยทำร้ายร่างกายแฟนของตน ซึ่งเคยแจ้งความไปแล้ว จนกระทั่งแฟนสาวขอมาอยู่กับญาติที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งตนก็ไม่ว่าอะไร เพราะห้ามแล้วไม่ฟัง ตนก็ทราบดีว่า แฟนสาวมาอยู่กับสาวทอมชื่อ “ป๊อปปี้” ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร และทำงานหาเงินตามประสาช่างรับเหมาก่อสร้าง แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่เสมอๆ โดยครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกันคือวันที่ 22 พ.ค.60 เวลา 23.47 น. จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ก่อนจะมาทราบข่าวอีกครั้งว่าถูกฆาตกรรม


ขณะที่มารดาผู้เสียชีวิต ก็ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเพื่อยืนยันรูปพรรณ และให้ข้อมูลกับตำรวจ ยืนยันว่าผู้เสียชีวิต คือลูกสาวจริง เนื่องจากจดจำรอยสักบริเวณหน้าอกด้านซ้ายได้ เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิต เป็นคนชอบคบหาสาวหล่อ ซึ่งทางบ้านก็พยายามบอกให้เลิกคบหา เพราะอยากให้แต่งงานมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝา ซึ่งหลังแต่งงานแล้วก็คิดว่าลูกสาวจะอยู่กินกับสามี แต่กลับมาพบว่าลูกสาวถูกฆาตกรรม

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นชู้สาว และชิงทรัพย์ เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีการคบหากับสาวหล่อ และเพิ่งจะแต่งงานกับชายหนุ่ม ส่วนประเด็นชิงทรัพย์นั้น เนื่องจากโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 6 ของผู้เสียชีวิตได้หายไป แนวทางการสืบสวนตอนนี้แคบเข้าแล้ว และขณะนี้ทราบแล้วว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มไหน ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 2 คน มีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมมาก โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าดูพฤติกรรมเอาไว้แล้ว และตอนนี้กำลังรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์บางอย่างที่จะนำมาประกอบการไขคดี ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ภายในเร็วๆ นี้

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ กล่าวถึงแนวทางการสืบสวนว่า ยังคงไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และยังต้องเรียกผู้มีส่วนใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ ซึ่งขณะนี้ได้สอบไปแล้ว 6 ปาก นอกจากนี้ยังจะตรวจสอบบัญชีเงินฝากของผู้เสียชีวิตด้วยว่ามีความผิดปกติหรือเชื่อมโยงอย่างไร ซึ่งทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังระดมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันไขคดีเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้เร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]