“สมคิด” นำทัพธุรกิจไทยเยือนลาว หวังขยายการค้าเพิ่ม

สปป.ลาว 24 พ.ค. – รองนายกฯเศรษฐกิจฯ นำทัพนักธุรกิจรายใหญ่ บุกตลาด สปป.ลาว ขยายการค้า การลงทุนเพิ่ม


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  หารือกับนายสมดี ดวงดี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน สปป.ลาว พร้อมคณะประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รมว.อุตสาหกรรม , รมว.พลังงาน,รมว.อุตสาหกรรม,รมช.คมนาคม บีโอไอ ททท สมาคมธนาคารไทย ประธานสภาหอกาค้าไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาธุรกิจไทย-ลาว  และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ  หวังให้บริการทางการเงินกับนักธุรกิจไทยเข้ามาทำธุรกิจใน สปป.ลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและ สปป.ลาว  และการอำนวยความสะดวกให้กันนักธุรกิจรายใหญ่ของไทยขยายการลงทุนเพิ่ม โดยเป็นการเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 23–25 พฤษภาคม 2560 ณ นครหลวงเวียงจันทน์  

สำหรับการพัฒนาท่องเที่ยว ได้มีแผนร่วมกันในการพัฒนาริมสองฝั่งโขง เพื่อเชื่อมการท่องเที่ยวทั้งการล่องเรือฝั่งโขง เช่น โปรโมทภาคอีสานและท่องเที่ยวต่อไปเวียงจันทร์ และการพัฒนาเส้นทางฝั่งไทย อ.เชียงคาน อ.โขงเจียม จ.อุบลฯ การสร้างกิจกรรม ปั่นจักรยาน แรลลี่  เปิดให้เข้าพักโฮมเสตย์ในชุมชน  และเชื่อมต่อไปฝั่งลาว การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว จ.น่าน อุตรดิตถ์ เชื่อมไปยัง หลวงพระบาง เวียงจันนทร์  ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวลาวเดินทางเข้ามาไทย 1 ล้านคนขณะที่ไทยเดินทางมาลาว 2 ล้านคนต่อปี  จึงต้องเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน เพื่อให้ไทยเป็นช่องทางเปิดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังไทยและเดินทางต่อไปยัง สปป.ลาวเพิ่มขึ้น  


เนื่องจากไทยให้ความสำคัญในการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน CLMV  จึงมุ่งเน้นร่วมมือกับ สปป.ลาว  พัฒนาหลายด้าน เช่น  การร่วมจัดตั้งตลาดประชารัฐไทย – สปป.ลาว บริเวณแนวชายแดน เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงและส่งเสริมการค้าชายแดนของทั้งสองประเทศ การร่วมมือด้านเกษตรอินทรีย์เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกร รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์เพื่อเป็นเพื่อนร่วมทาง  การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน หวังช่วยให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุเป้าหมายการค้า   การกับฝ่ายสปป.ลาว เพื่อยกระดับด่านท้องถิ่นของ สปป.ลาว ที่อยู่ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนของไทยให้เป็นด่านสากลเพิ่มเติม ตั้งเป้าหมายบรรลุมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงกว่า 10,000 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ ในปี 2564 


ทีมนักธุรกิจของไทยเดินทางร่วมคณะรองนายกรัฐมนตรีสมคิดในครั้งนี้ มีภาคเอกชนรายใหญ่ 30 ราย  อาทิ ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง สาธารณูปโภค โลจิสติกส์ โรงพยาบาล โรงแรม ธุรกิจการเงิน ด้านพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ภาคก่อสร้าง และการการแพทย์ครบวงจร จึงได้พาผู้บริหาร บ.ไทยเบฟเวอรเรจ,บ.อิตาเลียนไทย , ช.การช่าง, รพ.ยันฮี, รพ.กล้วยน้ำไท , บ.บ้านปู , บ.อมตะ กลุ่มเซ็นทรัล,  ปทต. , กฟผ. หวังขยายลงทุนเพิ่ม ไทยลาวมีเส้นเขตแดนรวมกัน 1,810 กิโลเมตร เนื่องจากช่องทางติดต่อนำเข้า ส่งออกสินค้าผ่านด่านชายแดนถาวร 15 แห่ง จุดผ่อนปรนการค้า 32 แห่ง รวม 47 แห่ง ไทย-ลาวมีความใกล้ชิดทางความสันพันธ์เครือญาติ มิตรสหาย มีความคล้ายคลีงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม เมื่อรัฐบาลได้มีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 พัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในช่วง 5-6 ปี ข้างหน้า 

ปัจจุบันการค้ารวมไทย-สปป.ลาว เป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทย   ปี 2559 มีมูลค่าการค้า 206,648 ล้านบาท หรือ 5,871.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.86  ไทยส่งออกไปสปป.ลาว 140,071 เป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 2,117.12 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไป สปป.ลาว คิดเป็นมูลค่า 3,994.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และไทยนำเข้าจาก สปป.ลาว มูลค่า 1,877.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ กว่าร้อยละ 98 เป็นการค้าชายแดน มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท  สปป.ลาว มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 7.6  ตลอดช่วง 5 ปีผ่านมา มีจุดเด่นการเป็น Land Link เชื่อมไทยสู่ตลาดอาเซียนและจีน รองรับการขยายตลาดร่วมกันเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]