ชาวนาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์

ศาลฎีกาฯ 4 พ.ย.- ชาวนาแห่ให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์” ระบุเห็นใจความลำบากของชาวนา พร้อมช่วยเหลือแม้ไม่มีตำแหน่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  เพื่อร่วมรับฟังการไต่สวนพยาน ฝ่ายจำเลย นัดที่  6  ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย ฐานความผิดปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

การเดินทางมารับฟังการไต่สวนของอดีตนายกรัฐมนตรีในวันนี้  ยังคงมีอดีต ส.ส.  อดีตรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย  รวมทั้งกลุ่มมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ และทั้งหมดพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดขาว-ดำ  ซึ่งมีจำนวนมากกว่าทุกครั้ง เพราะมีกลุ่มชาวนาเดินทางมาให้กำลังใจด้วย โดยได้นำรวงข้าวมามอบให้แทนดอกไม้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือชาวนาของรัฐบาลว่า ไม่ต่างจากโครงการจำนำข้าว ที่สำคัญรัฐบาลก็มุ่งหวังช่วยชาวนาโดยไม่หวังกำไรขาดทุน  ซึ่งจากการไปสัมผัสชาวนา พบว่าชาวนาลำบากจริง ๆ นอกจากปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำแล้ว ยังมีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก ทำให้จำเป็นต้องขายข้าวออกไปในราคาที่ขาดทุน  เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงและอยากให้ทุกภาคส่วนช่วยเหลือชาวนา

น.ส.ยิ่งลักษณ์  ยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าดราม่าในการลงพื้นที่ว่า ดิฉันเองมาจากประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน รู้ซึ้งถึงบุญคุณของพี่น้องประชาชน วันนี้ชาวนาเดือดร้อน  แม้ว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว  แต่ทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เห็นใจชาวนาที่ลำบาก จึงลงพื้นที่ ไม่ได้มุ่งหวังประเด็นการเมืองแต่อย่างใด ถามว่าถ้ามองว่าเป็นภาพดราม่า ตนรู้สึกตื้นตันใจกับน้ำใจของชาวนาที่ยิ่งใหญ่  แม้ชาวนาจะมีความทุกข์มาก ไม่มีแม้แต่ข้าวสารกรอกหม้อ ไม่มีแม้เงินใช้จ่ายประจำวัน ยังมาให้กำลังใจตน ทำให้รู้สึกซาบซึ้งและขอบใจพี่น้องชาวนาที่มาให้กำลังใจ ใครมาเป็นแบบตน ย่อมรู้ว่าสถานการณ์นี้ก็หนัก  แต่ทุกข์ของตนไม่เท่าทุกข์ที่ชาวนาประสบ  อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยชาวนา

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุให้ซื้อข้าวจากชาวนาทั้งประเทศไม่ใช่เฉพาะที่ลงพื้นที่นั้น  น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องให้รัฐบาลมองภาพรวมทั้งระบบและข้างหน้าด้วย  เพราะในเร็ววันนี้จะมีข้าวที่จะเกี่ยวเข้ามาอีก  ตนไม่สามารถไปก้าวล่วงเพื่อที่จะแนะนำได้  เพราะเชื่อว่ารัฐบาลก็ต้องมีทีมเศรษฐกิจที่เป็นมืออาชีพที่จะแก้ปัญหาให้กับชาวนา ตนไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว  แต่อยากให้รัฐบาลมองว่างานตรงนี้คืองานที่รัฐบาลจะต้องเข้ามาแก้ไขให้กับชาวนา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าไต่สวน ได้มีอุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยจังหวัดเชียงใหม่  8  จังหวัดภาคเหนือตอนบน  ประธานกลุ่มชาวนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด  และอุปนายกสมาคมชาวนาไทยภาคกลาง  เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อให้กำลังใจในการสู้คดี และเป็นการให้ข้อมูลโครงการจำจำข้าวเพื่อประโยชน์ในการสู้คดี โดยระบุว่าโครงการดังกล่าวทำให้ชาวนาขายข้าวได้กำไร พอที่จะไถ่ถอนที่นา ลืมตาอ้าปากมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยชาวนาได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ได้ประโยชน์สูงสุด  ซึ่งพร้อมจะให้ข้อมูลเพื่อใช้ในการสู้คดี

“ท่านคือนายกของชาวนา  ดูแลชาวนา วันนี้ชาวนาเดือดร้อนมาก ท่านก็เดือดร้อนเช่นกัน ต้องขึ้นศาลทุกเดือน  แต่ท่านก็ยังไปเยี่ยมชาวนาที่เดือดร้อน ช่วยซื้อข้าวสารชาวนา ช่วยให้ดำแนะนำ พวกเราชาวนาก็ยิ่งรักและเป็นห่วงท่านยิ่งขึ้น” ข้อความในจดหมายระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงเวลานัด 09.30 น. นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ได้ออกนั่งบัลลังก์ในนัดไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 6 คดีโครงการรับจำนำข้าว หมายเลขดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท

แต่ปรากฏว่า นายชีพ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน ได้แจ้งต่อคู่ความว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง พยานที่จะมาไต่สวนในวันนี้ ได้ทำหนังสือแจ้งต่อทนายความจำเลย ขอเลื่อนการไต่สวนออกไปก่อน เนื่องจากมารดาป่วยอยู่ในขั้นวิกฤติ จึงขอเวลาดูแลมารดาที่โรงพยาบาลก่อน ศาลสอบถามอัยการ โจทก์แล้ว ไม่คัดค้าน ศาลจึงให้เลื่อนการไต่สวนพยานปากนายกิตติรัตน์ออกไปก่อน

ส่วนนัดไต่สวนพยานในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ก็ยังคงนัดไว้ ซึ่งทนายความจำเลย จะนำ นายอำพน กิตติอำพน อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.คลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มาไต่สวน ขณะที่ศาลอนุญาตให้เพิ่มวันไต่สวนพยานจำเลยอีก 2 นัดในวันที่ 7 และ 21 ก.ค.60 เวลา 09.30 น.  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย