“พรเพชร” แนะ กมธ.พิจารณาร่างกฎหมายลูก กกต.-พรรคการเมือง

จันทบุรี 20 พ.ค.-ประธาน สนช. แนะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายลูกว่าด้วย กกต.-พรรคการเมือง พิจารณาโดยยึดบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญก่อนบทหลัก


คณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะและรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดโครงการสัมมนา เรื่องร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่โรงแรมนิวแทรเวล ลอด์จ จังหวัดจันทบุรี

โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานเปิดการสัมมนา พร้อมให้ข้อสังเกตต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เรื่องกระบวนการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่แตกต่างจากกฎหมายทั่วไป ว่า เนื่องจากกฎหมายทั่วไป การพิจารณาจะเน้นไปในเรื่องของนโยบายรัฐบาลเป็นหลัก สนช.จึงทำหน้าที่การตรวจพิจารณาความเหมาะสมของกฏหมายเท่านั้นว่าต้องมีการแก้ไขหรือไม่ แต่การพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญนั้น ต้องดูที่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเป็นหลัก โดยพิจารณาจากบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญก่อนไปพิจารณาบทหลักของรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีความแตกต่างกัน


“เช่น เมื่อ สนช.พิจารณาร่างกฎหมายเสร็จแล้ว ตามบทหลักของรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ในบทเฉพาะกาล กำหนดให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนกฎหมายอื่น เช่น กฎหมายพรรคการเมือง ต้องส่งให้ กกต. และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ตรวจสอบแทนว่าเนื้อหาของร่างกฎหมายที่ สนช.พิจารณาเสร็จแล้ว ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากเห็นว่าไม่ตรง ก็ให้ สนช.ตั้งกรรมาธิการร่วมขึ้นมาเพื่อพิจารณา ก่อนส่งให้ สนช.ลงมติอีกครั้งว่าเห็นด้วยกับที่คณะกรรมาธิการร่วมแก้ไขหรือไม่ ซึ่งเหตุผลที่บทหลักและบทเฉพาะการเขียนต่างกัน เพราะกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ แตกต่างจากกฎหมายทั่วไป ต้องให้ความสำคัญมากกว่า และเน้นคำนึงถึงผลประโยชน์ขอบประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง ยึดหลักนิติธรรม เพื่อพัฒนาความเป็นประชาธิปไตยของประเทศชาติ” นายพรเพชร กล่าว

นายพรเพชร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในบทเฉพาะกาลจะไม่ได้กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจพิจารณาความขัดแย้งในกฏหมายขององค์กรอื่น แต่ในบทหลักให้อำนาจศาลวินิจฉัยความขัดแย้งทางกฎหมายได้ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามมาตรา 148 ของรัฐธรรมนูญ ไม่ว่ากฎหมายนั้นจะประกาศใช้แล้ว หรือยังไม่นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมก็ตาม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ