กรุงเทพฯ 20 พ.ค. -เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ
1 เดือนที่
34.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากปัจจัยการเมืองสหรัฐที่มีกระแสเรียกร้องถอดถอน
“โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดี สหรัฐ และเป็นปัจจัยกดดันดัชนีหุ้นไทย
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นท่ามกลางทิศทาง ที่อ่อนแอของเงินดอลลาราสหรัฐ
หลังนักลงทุนกลับมาให้ความสนใจกับประเด็นการเมืองภายในของสหรัฐฯ ขณะที่
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดในช่วงต้นสัปดาห์ ก็ลดทอนโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในการประชุม
FOMC เดือนมิ.ย.
ลง ซึ่งก็เป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินดอลลาร์ฯ อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ ทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินในเอเชีย
(โดยเฉพาะเงินดอลลาร์ไต้หวัน) ในช่วงท้ายสัปดาห์
ก็หนุนให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องด้วยเช่นกัน โดยในวันศุกร์
(19 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 34.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.71 บาทต่อดอลลาร์
ในวันศุกร์ก่อนหน้า (12 พ.ค.)
ด้านดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นตามแรงซื้อหุ้นพลังงานก่อนการประชุมโอเปก
โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,549.64 เพิ่มขึ้น
0.37% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 7.07% จากสัปดาห์ก่อน
มาที่ 43,623.42 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai
ปิดที่ 560.23
จุด เพิ่มขึ้น 0.81% จากสัปดาห์ก่อน
โดยความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ประธานาธิบดีทรัมป์อาจถูกถอดถอน
จำกัดกรอบการปรับตัวขึ้นของดัชนีหุ้นไทยไว้บางส่วน
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (22-26 พ.ค.)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.35-34.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,530 และ
1,515 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,560
และ 1,575 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
คงได้แก่ ประเด็นการเมืองสหรัฐฯ
ถ้อยแถลงของรองประธานเฟด การประชุมโอเปก และการประชุมนโยบายการเงินของไทย(24 พ.ค.)
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญได้แก่ จีดีพีไตรมาส 1/60 (รายงานครั้งที่ 2) ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ อาทิ
ข้อมูล PMI ภาคการผลิตในยูโรโซน และญี่ปุ่น–สำนักข่าวไทย

